“บิ๊กโจ๊ก” สั่ง”ผู้การรังนก” เร่งขยายผลจับผู้ต้องหาเพิ่ม คดีทุจริตเงินสหกรณ์ ตร.
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 13 มิ.ย. 2565, 12:00 น. อ่าน : 776พัทลุง-“บิ๊กโจ๊ก“ สั่ง “ผู้การรังนก“ ลงพื้นที่สอบปากคำอดีตผู้จัดการสหกรณ์ฯและผู้ต้องหารายสำคัญ เพื่อเร่งขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ และการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตให้เร็วยิ่งขึ้น
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.เร่งขยายผล คดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัดวงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ที่ทำเป็นขบวนการ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. หรือ”ผู้การรังนก” นำทีมเร่งสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม หลังออกหมายจับผู้ต้องหา งวดแรก 24 คน ทางด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรค ปชป. ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้นำหนังสือร้องเรียนของตัวแทนกลุ่มผู้ต้องหาและตัวแทนสมาชิกหาเจ้าแจ้งต่อคณะกรรมาธิการฯแล้ว ในขณะที่ ร.ต.ท. พันธ์ชัย ชัยด้วง ประธานคณะกรรมการดำเนินงานlสหกรณ์ฯ และ ร.ต.ท. หญิง อรุชา ช่วยกิจกรรมการ (อดีต เหรัญญิก) ได้ขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. หรือ “ ผู้การรังนก “ เดินทางมาติดตามสำนวนการสอบปากคำของกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 24 ราย ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ในวันเดียวกัน ก็ได้เป็นประธานในการประชุมพนักงานสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง และของ ภ.9 จากนั้นก็ได้ลงพื้นที่ไปสอบปากคำผู้ต้องหารายสำคัญๆด้วยตนเอง ทำให้ผู้ต้องคนสำคัญบางคนไม่คาดคิดว่าทางด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. จะนำทีมงานลงพื้นที่สอบปากคำด้วยตนเองทั้งๆที่เป็นวันหยุดราชการ
ต่อมาเมื่อยตอนสายวันที่ 13 มิถุนายน พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. หรือ “ ผู้การรังนก “ ได้เชิญนางสาวสุภา สุวรรณเดชากุล อายุ 68 ปี อดีตผู้จัดการสหกรณ์ฯ ผู้ที่เป็นผู้ต้องหารายสำคัญมาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง โดยมีทนายความของนางสาวสุภามาร่วมรับฟังการสอบปากคำในครั้งนี้ด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพหลังจากที่สอบปากคำไปประมาณกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ต.ไพโรจน์ จึงได้เดินทางกลับกรุงเพทฯ เพื่อเดินทางไปขยายผลการสอบสวนคดีสำคัญในจังหวัดแห่งหนึ่ง และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ปานดำ ผกก.(กลุ่มงานสอบสวน) ภ.9 พร้อมพวก ได้สอบปากคำนางสาวสุภาต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือด้านการจัดทำสำนวนการสอบสวน เพื่อให้การคลี่คลายคดีดังกล่าวมีประสิทธิภาพเหมือนคดีลักรังนกฯที่ผ่านมา เรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการในครั้งนี้จะต้องขยายผลการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาอย่างรัดกุม เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของสหกรณ์ฯ คือชุดสอบสวนของสตช.จะต้องเร่งดำเนินการมี 2 ประการ คือ 1.จะต้องเร่งยึดทรัพย์ผู้ต้องหารายสำคัญเพื่อนำทรัพย์สิน เงินสด กลับคืนมาสู่สหกรณ์ฯโดยเร็วที่สุด และ 2.จะต้องเร่งขยายผลการสอบสวนไปจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหามาดำเนินการตามกฎหมาย ใครที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสหกรณ์ฯจะต้องถูกจับกุมทุกๆราย ซึ่งการดำเนินการทั้ง 2 ประการนี้จะต้องให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
พล.ต.ต.ไพโรจน์ เผยอีกว่า การสอบปากคำผู้ต้องหารายสำคัญของคดีดังกล่าวนั้น เบื้องต้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจยิ่ง แต่ไม่สามารถที่จะเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นความลับของการสำนวนการสอบสวน ทั้งนี้ชุดสอบสวนของ สตช.จะเร่งดำเนินการทั้ง 2 ประการให้รวดเร็วที่สุด โดยในสัปดาห์หน้าทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนนำพนักงานสอบสวนของ สตช. ลงพื้นที่เพื่อขยายผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 ประเด็น มากกว่า 10 นาย การลงพื้นที่คลี่คลายคดีดังกล่าวนี้นับเป็นการทำบุญครั้งสำคัญที่จะสามารถช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ฯได้จำนวนหลายคน ขอให้สมาชิกสหกรณ์ฯได้มั่นใจและเชื่อใจต่อตำรวจชุดสอบสวนของ สตช.ที่ลงมาช่วยเหลือการคลี่คลายในคดีดังกล่าว
ทางด้านสมาชิกสหกรณ์ฯรายหนึ่ง เผยว่า ในช่วงเปิดภาคเรียนครอบครัวของสมาชิกสหกรณ์ฯได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลายรายต้องมีหนี้สินเพิ่มเติม ยืมเงินนอกระบบ ปีที่ผ่านมามีการจัดสวัสดิการเงินทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิกจำนวนหลายทุนแต่ปีนี้ไม่มี พวกตนจึงขอความอนุเคราะห์ไปยัง สตช.ในการดูแลด้านสวัสดิการแก่มวลสมาชิกด้วย เนื่องจากสมาชิกสหกรณ์ฯพัทลุงเป็นจังหวัดเดี่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ในขณะเดียวกันก็ขอความอนุเคราะห์ไปยังสันนิบาตสหกรณ์ฯได้เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของมวลสมาชิกสหกรณ์ฯในครั้งนี้ด้วย ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.