“บ๊ะจ่าง อัยเยอร์เบอร์จัง” ของดีเบตง มีขายทั้งปี

ยะลา-“บ๊ะจ่าง อัยเยอร์เบอร์จัง” ของดีเบตง ไม่ใช่เทศกาลบ๊ะจ่างก็หากินได้ สองสามีภรรยาชาว ต.ธารน้ำทิพย์ ทำส่งขายตลาดเบตง กว่า 15 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซียชอบกันทาก

บ๊ะจ่างขนมจ่างชื่อดังของดี อ.เบตง จ.ยะลา ที่ขายดิบขายดีนี้ ผลิตที่บ้านเลขที่ 84/1 ม.1ต.ธารน้ำทิพย์  อ.เบตงจ.ยะลา บ้านของนายชัยพงศ์ แซ่เล่า อายุ 53 ปี ชาวบ้านในตำบลต่างรู้กันดีว่าเป็นบ้านที่ทำบ๊ะจ่างชื่อดังเลิศรสส่งขายในตลาดเบตงมานานนับ 15 ปีแล้ว โดยบ๊ะจ่างเป็นเมนูอาหารจีน ที่ชาวไทยเชื้อสายจีน มักจะทำกันในช่วงเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง จึงทำให้หากินได้ยากหากไม่ใช่ช่วงเทศกาล 

สำหรับในพื้นที่ อ.เบตง วันไหว้บ๊ะจ่าง ทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ จะร่วมกับชาวบ้านจัดงานเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง ขึ้นทุกปี เพื่อสืบสานประเพณี อนุรักษ์วัฒนธรรม ของชาวไทยเชื้อสายจีน ให้คงอยู่สืบไป และจะมีการสอนให้ลูกหลานเข้าใจถึงวิธีการทำ พิธีการต่างๆในการไหว้ ซึ่งในงานจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชายไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาร่วมงานกันจำนวนมาก ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะมาช่วยกันทำบ๊ะจ่าง ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชิม ลิ้มลองรสชาติบ๊ะจ่าง ของ ต.ธารน้ำทิพย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “บ๊ะจ่าง อัยเยอร์เบอร์จัง” เป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนมาเลเซียเป็นอย่างมากและที่ อ.เบตง มีบ๊ะจ่างขายทุกวัน

นายชัยพงศ์ แซ่เล่า เปิดเผยว่า ตนและภรรยา ได้ทำบ๊ะจ่างส่งขายในตลาดเบตง เป็นอาชีพเสริม มานานประมาณ 15 ปีแล้ว ปกติจะทำวันละ 150 ลูก แต่หากช่วงไหนที่มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตงมาก ยอดสั่งจองก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบันตนยังทำบ๊ะจ่าง ไส้ปลานิลสายน้ำไหลส่งขาย และลูกค้ายังสามารถสั่งเพิ่มเติมไส้ ตามความชอบทานของลูกค้า เช่น เพิ่มเนื้อหมู กุนเชียง ไข่แดงเค็ม ซึ่งราคาบ๊ะจ่างก็จะเพิ่มขึ้นตามราคาของวัตถุดิบด้วย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20-40 บาท สามารถสั่งจองได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 098-010-3673 

พร้อมกันนี้นายชัยพงศ์ เปิดเผยวิธีการทำบ๊ะจ่างว่า ไม่ได้ยากมากนักแต่ต้องใช้เวลาในการทำบ๊ะจ่างหลายชั่วโมง ขั้นแรกก็ต้องเตรียมวัตถุดิบในการทำบ๊ะจ่างก่อน ก็จะมี ข้าวเหนียว เนื้อหมู เห็ดหอม ไข่แดงเค็ม แปะก๊วย ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วเหลืองซีก กุ้งแห้ง บางคนก็จะใส่กุนเชียง แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนเครื่องปรุงก็จะมี ซี้อิ้วขาวซี้อิ้วดำ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย เกลีอ กระเทียมเจียว หัวหอมเจียว ผงพริกไทยดำ ผงพะโล้ และน้ำด่าง ซึ่งน้ำด่างที่ใช้จะเป็นน้ำด่างที่หาซื้อได้จากโรงผลิตซี้อิ้วเบตง และใบไม้กวาดไว้สำหรับห่อบ๊ะจ่าง 

เมื่อวัตถุดิบครบแล้ว ก็นำข้าวเหนียวไปล้างให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 4 ชม จากนั้นก็ล้างน้ำเปล่าอีก 1 ครั้ง แล้วนำข้าวเหนียวไปผัดกับน้ำมันกระเทียมเจียว ใส่ถั่วแดง ถั่วขาว ที่ต้มแล้ว หัวหอมเจียว ปรุงรสด้วย ซี้อิ้วขาว ซี้อิ้วดำ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย เกลีอ ผงพริกไทยดำ ผงพะโล้ และน้ำด่าง ผัดให้เข้ากันจนข้าวเหนียวแห้ง แล้วยกขึ้น เห็ดหอมก็นำไปผัดกับน้ำมัน ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ผงพริกไทยดำ ผัดประมาณ 10-15 นาที ถั่วเหลืองซีก นำไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซี้อิ้วขาว ผงพะโล้ ผงพริกไทยดำ และซอสปรุงรส จนมีกลิ่นหอม จากนั้นนำแปะก๊วย ไปต้มใส่เกลือ เพื่อแปะก๊วยจะได้ไม่มีรสชาติขม ส่วนหมูล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้น นำไปหมักกับเกลือ ซี้อิ้วขาว ผงพะโล้ น้ำมันหอย และซอสปรุงรส หมักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชม. หากเป็นบ๊ะจ่างไส้ปลานิล ก็จะนำปลานิลไปหั่นเป็นชิ้นแล้ว หมักกับเกลือ ซอสปรุงรส แล้วนำไปชุบแป้งทอด

หลังจากที่ได้ส่วนผสมของบ๊ะจ่างครบเรียบร้อยหมดแล้ว ก็จะนำไปห่อกับใบไม้กวาดซึ่งต้มเรียบร้อยแล้ว ใบไม้กวาดที่ใช้ห่อเวลาต้มจะต้องใส่เกลือนิดนึง น้ำด่างนิดหน่อย จะทำให้ใบไม้กวาดออกมาสีสวยไม่ดำ หลังจากที่ห่อบ๊ะจ่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะนำไปต้ม ใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 2 ชม. ก็สามารถนำมารับประทานได้เลย 

นายชัยพงศ เผยอีกว่าสำหรับบ๊ะจ่างที่ทำขาย หากแช่ในตู้เย็นจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ แต่หากฟรีซดรายจะสามารถเก็บไว้กินได้เป็นเดือน.