ปปง.ประชุมครั้งที่ 1 ยึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดีทุจริตสหกรณ์ ตร.พัทลุง กว่า 149 ล้าน

พัทลุง-การประชุมคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง.ในครั้งที่ 1 ยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด แล้วมาก กว่า 149  ล้านบาทเศษ

คดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุง จำกัด ทำให้เกิดความเสียหายวงเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,003,753,140 บาท ผู้ต้องหา 26 ราย ได้นำส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการจังหวัดฯแล้ว  ด้านพนักงานสอบสวนเตรียมส่งสำนวนการสอบสวนข้าราชการบำนาญ 1 ราย ต่ออัยการทุจริต ภาค 9   ในขณะที่สมาชิกสหกรณ์ฯได้ผ่านการรับรองงบการเงินของสหกรณ์ฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม2564  เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานแผนฟื้นฟูต่อไป  ในส่วนของ ปปง.ได้จัดประชุมคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง. เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาตามขั้นตอนต่อไป  ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีนี้ว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง. ณ สำนักงาน  ปปง. กรุงเทพฯ  เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65  นั้น  ได้มีการพิจารณาในคดีกลุ่มผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระตาม  3 (14 ) และ(18)  ซึ่งนางสาววสันต์ศิริ  ทรัพย์สิรินทร์ พนักงานเจ้าหน้าที่ มีการดำเนินการดังนี้

1.ยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งยึดทรัพย์ที่ 157/2565 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2565 

2.ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 10/2565 วันที่ 18/2565  ปปง.ได้มีมติให้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการนำทรัพย์สินไปคืนหรือใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย  โดยทรัพย์สินที่สามารถยึดและอายัดมีมูลค่า 149,088,112.88บาท  

อย่างไรก็ตามยังมีจำนวนทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาอีกเป็นจำนวนมาก  ที่พนักงานสอบสวนตรวจยึดมาได้และแจ้งให้  ปปง.ได้รับทราบ ทาง ปปง.จะได้นำทรัพย์สินดังกล่าวนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง.  เพื่อพิจารณายึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหานำคืนส่งให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด  โดยทางคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง. ยังมีการประชุมกันอีกหลายครั้ง  เนื่องจากทรัพย์สินที่ยึดมาได้ในงวดที่  1  นั้น  มีค่ามากกว่า  1,003  ล้านบาท  ซึ่งทรัพย์สินที่ยึดได้ในครั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง. ในครั้งที่ 1 เท่านั้น  ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.