ประธานสหกรณ์ ตร.พัทลุง คนใหม่ ยันเอาคนโกงมาดำเนินคดีให้ได้
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 17 ก.พ. 2565, 15:32 น. อ่าน : 1,191ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงคนปัจจุบัน เผยผลการตรวจสอบบัญชีของผู้ได้รับอนุญาตจากจ.สงขลา เสร็จแล้ว ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 9 ราย ตรวจสอบพบการตกแต่งบัญชี กู้ 1 ล้านบาท แต่งบัญชีเป็น 1.5 ล้านบาท และจำนวนสมาชิกที่แท้จริงจำนวน 1,825 ราย
จากกรณีที่ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข อดีต ผบก.ภ.จว.สตูล และคณะ ได้นำหนังสือร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ให้ช่วยเร่งรัดให้มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีทุจริตเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง หลังพบการทุจริตในสหกรณ์ฯประมาณ 1,697 ล้านบาท จากการที่ได้มีการแจ้งความไว้แล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิด และนำเงินมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ ด้านสมาชิกรายหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิดการทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงที่กำลังลอยนวลอยู่
ด้าน ร.ต.ท.พันชัย ชัยด้วง ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้การตรวจสอบบัญชีจากผู้ได้รับอนุญาตจาก จ.สงขลา ที่เข้ามาตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์ตำรวจฯตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมาได้เสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 14 กุมภพันธ์ โดยในเบื้องต้นได้ตรวจยอดเงินปันผลที่เกินไปในปีที่ผ่านมา พบยอดเงินกู้ที่ไม่เป็นความจริงซึ่งเป็นการตกแต่งบัญชี อาทิ สมาชิกกู้เงินไป 1 ล้านบาท แต่ตกแต่งบัญชีเป็น 1.5 ล้านบาท การตรวจสอบจำนวนสมาชิกที่แท้จริงเป็นสมาชิกสหกรณ์ตำรวจฯ จำนวน 1,825 ราย
“ขณะนี้เงินคืนมาจากการกู้เงินบางส่วนที่กู้เงินเกินความจริง อายัดเงินในบัญชีของผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิด รวมทั้งขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนไปสู่เส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดบางราย ผมยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองจากการปฏิบัติหน้าที่ และจะดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิดทุกราย และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกให้กับมวลสมาชิกและจะนำเงินมาให้สมาชิกทุกราย” ร.ต.ท.พันชัยกล่าว
พร้อมกันนี้ ร.ต.ท.พันชัย เปิดเผยอีกว่า จากกรณีเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นนั้น มีกระแสข่าวว่าตนถูกผู้บังคับบัญชาขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้ จนท.ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดฯ เข้ามาแก้ไขปัญหานั้น ตนขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นจริงแต่อย่างใด ผู้บังคับบัญชาได้เรียกตนมาพบจริงแต่เรียกมาให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.