“ปวีณา”ล่องใต้ติดตามคดีข่มขืนฆ่าเด็กอายุ 3 ขวบ

หมวดหมู่ : นราธิวาส,

อ่าน : 321
“ปวีณา”ล่องใต้ติดตามคดีข่มขืนฆ่าเด็กอายุ 3 ขวบ

นราธิวาส-“ปวีณา” ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ติดตามคดีเด็ก 3 ขวบ ถูกกระทำชำเรา และพบศพอยู่ในแอ่งน้ำ ประณามเหี้ยมโหดเกินอมนุษย์ พร้อมมอบเงินช่วยครอบครัวเป็นกำลังใจ



เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 เวลา 12.40 น. นางปวีณา หงสกุล ปธ.มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางไปจ.นราธิวาส โดยมีนายสรัญรัฐ กีรติวิโรจน์กุล หน.บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส

 น.ส.ฉายา ยะภา ผช.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย บิดาและมารดาขอวเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งหายออกจากบ้านปริศนาและมาพบศพเสียชีวิต ในแอ่งน้ำบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งห่างจากบ้านพัก ประมาณ 300 เมตร และพบศพเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา คอยให้การต้อนรับ จากนั้นนำคณะเดินทางไปยัง สภ.ตันหยง เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.มะตอฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง ซึ่งนางปวีณา ได้สอบถามถึงความเป็นมาคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพจิตของบิดามารดา ที่น่าเศร้าเนื่องคนร้ายได้กระทำต่อเด็กเพียงอายุ 3 ขวบเท่านั้น


พ.ต.อ.มะตอฮา ผกก.สภ.ตันหยง ได้สรุปว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่บิดากำลังวุ่นอยู่กับการขายข้าวเกรียบ และได้เดินไปแลกเงินเพื่อทอดให้กับลูกค้า เมื่อกลับมาจู่ๆบุตรสาวที่เล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านได้หายตัวไป และบิดาได้เข้าแจ้งความว่าสงสัยลูกค้าที่ขับรถยนต์เก๋งสีบรอนส์ ได้ลักพาตัวลูกสาวไป แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบรถยนต์เก๋งต้องสงสัยจำนวน 3 คัน และพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น และต่อมาได้พบศพเด็กนอนเสียชีวิตในแอ่งน้ำจึงทำให้การสืบสวนสอบสวนในเรื่องการลักพาตัวเด็กเป็นอันยกเลิก


ต่อมานางปวีณา ได้ซักถามว่า คดีนี้ตกลงทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำการตรวจสอบศพเด็กในเบื้องต้นเป็นอย่างไรบ้าง พ.ต.อ.มะตอฮา ผู้กำกับ สภ.ตันหยง เผยว่าเด็กที่เสียชีวิตในแอ่งน้ำมีร่องรอยของการถูกกระทำชำเราจนอวัยวะฉีกขาด ซึ่งต้องรอการยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง ในส่วนของการตรวจ ดี.เอ็น.เอ.นั้น ในเบื้องต้นยังไม่ทราบผล แต่เกรงว่าสภาพเด็กเสียชีวิตถูกแช่น้ำ ผลการตรวจจะออกมา 100% หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ


นอกจากนี้ พ.ต.อ.มะตอฮา ผกก.สภ.ตันหยง ได้เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ล่าสุดได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแล้ว 5 คน พร้อมทั้งได้ตรวจเก็บ ดี.เอ็น.เอ.แล้วปล่อยตัวไป ยกเว้นอีก 1 คน ที่ผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด ซึ่งถือว่ามีพิรุธในชั้นสอบสวน แต่หากผลตรวจ ดี.เอ็น.เอ.พบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มในการดำเนินคดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อสกรีนเยาวชนหรือวัยรุ่นต้องสงสัยในหมู่บ้าน ตรวจสอบว่าหลังเกิดเหตุมีบุคคลใดได้หายหน้าหายตาออกจากหมู่บ้านไปบ้าง ซึ่งเป็นแนวทางในการแกะรอยกลุ่มบุคคลต้องสงสัย


ส่วนหลักฐานที่มีในขณะนี้ก็พอมีอยู่บ้าง ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบ อาทิ วงจรปิดบางจุดที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าบ้านพักของชาวบ้านละแวกจุดเกิดเหตุ ที่บันทึกพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัย แต่เห็นภาพบุคคลไม่ชัดเจนเนื่องจากกล้องวงจรปิดบันทึกได้เพียงบางส่วน แถมมีระยะไกลที่ไม่สามารถยืนยันว่า บุคคลในภาพถือหรืออุ้มอะไรผ่านกล้องวงจรปิด ที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้แกะรอยควบคู่กับหลักฐานต่างๆ


หลังจากนางปวีณา ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.อ.มะตอฮา ผกก.สภ.ตันหยง แล้วเสร็จได้เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุพบศพเด็กที่บริเวณแอ่งน้ำ โดยมีนายอัมรันทร์ บิดา และ พ.ต.อ.มะตอฮา ผกก.สภ.ตันหยง เป็นผู้อธิบายให้นางปวีณาฟังข้อสงสัยต่างๆ ทั้งสภาพพื้นที่ทางเข้าซึ่งรกทึบและเป็นเนิน เด็กไม่สามารถเด็กมาเองได้ ดูลักษณะเด็กอาจถูกอุ้มแล้วคนร้ายเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้เด็กร้อง เนื่องจากปกติเด็กจะไม่ให้คนแปลกหน้าอุ้มหรือพูดคุยด้วย ไม่เช่นนั้นจะร้องไห้หาบิดามารดาและจุดที่พบกางเกงและแพมเพิสก็เป็นจุดที่ลับตา เด็กไม่สามารถเดินข้ามไปได้ เพราะมีคูน้ำคั่นกลาง ซึ่งที่เกิดเหตุไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าหน้าที่จะควานหาตัวคนร้าย แต่มั่นใจว่าตำรวจสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้จะเอาใจช่วย


ก่อนที่นางปวีณา จะเดินทางกลับ ได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กพร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ส่วนทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส ได้มอบถุงยังชีพเพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งได้พูดปลอบประโลม มีอะไรที่จะให้ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาได้ทุกเมื่อ


นางปวีณา  หงสกุล ปธ.มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า พื้นที่จุดเกิดเหตุมันสลับซับซ้อนเป็นเนินที่ลับตา คนร้ายต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น ทางนิติวิทยาศาสตร์แจ้งผลการตรวจเบื้องต้น เด็กถูกข่มขืนอวัยวะฉีกขาดและฆ่าแต่ไม่ทราบด้วยวิธีใด คดีนี้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ มิเช่นนั้นเด็กๆแถวนี้จะมีอันตรายคนร้ายที่กระทำในครั้งนี้เป็นคนโหดเหี้ยมเกินอมนุษย์ ต้องดำเนินคดีในถึงที่สุดและประหารชีวิต มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง.