“ปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร” ซีพีเอฟสร้างมูลค่าเศษเหลือการเกษตรเป็นทองคำในดิน
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, ทั่วไป, ภาคอีสาน,
โฟสเมื่อ : 30 ส.ค. 2565, 17:00 น. อ่าน : 1,348 กรุงเทพฯ - จากเปลือกไข่ไก่เศษเหลือทิ้งในการกระบวนการผลิต
วันนี้ถูกนำมาเพิ่มมูลค่าสู่ “ปุ๋ยเปลือกไข่”
ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่เหมาะสมสำหรับดินและต้นพืชทุกชนิด
สร้างผลผลิตพืชที่มีคุณภาพ เจริญเติบโตดี ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น นำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกร
“โครงการปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร”
เกิดขึ้นจากแนวคิด “เปลี่ยนเศษเหลือในกระบวนการผลิต เป็นปุ๋ย
ด้วยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตเกษตรกรรมให้เกษตรกร” ของทีมงาน
ธุรกิจไก่ปู่-ย่าพันธุ์เนื้อ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ
จังหวัดชัยภูมิ ที่คว้ารางวัล Gold Pitch ในรอบ CSR
Pitching Contest #1/2022 ในการประกวดรางวัล CPF ยั่งยืนได้ด้วยมือเรา (CPF Sustainability in Action Awards 2022)
ที่บริษัทจัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจพนักงาน ปั้นโครงการที่สร้างประโยชน์สู่สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง
โครงการฯนี้
สอดรับกับเป้าหมาย “ลดปริมาณของเสียสู่การฝังกลบและเผา” (Zero
Waste to Landfill) จากปริมาณเศษเหลือจากกระบวนการผลิตที่มากถึง 100
ตันต่อปี ที่ต้องทำลายด้วยวิธีการดังกล่าว นำมาสร้างประโยชน์ โดยทีมงานได้ศึกษา
ค้นคว้า ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในกระบวนการย่อยสลายทางชีวภาพของจุลินทรีย์
เพื่อเร่งการย่อยสลายให้สมบูรณ์
ทดแทนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการกำจัดเศษเหลือทิ้งด้วยการเผา
ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
จากการศึกษาจนเกิดองค์ความรู้ของบุคลากร
ทำให้ได้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ เพื่อนำไปผสมกับมูลไก่จากฟาร์มต่างๆ
ในธุรกิจไก่ปู่-ย่าพันธุ์ และเปลือกไข่จากโรงฟักภายในธุรกิจไก่ไข่
มาทำเป็นปุ๋ยหมัก
โดยใช้พื้นที่โรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของศูนย์เรียนรู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านซับรวงไทร
จังหวัดชัยภูมิ เพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชน เกษตรกร และหน่วยงานราชการ
นำไปใช้ประโยชน์ เป็นการขยายผลทั้งในและนอกองค์กร
สำหรับรางวัล Gold
Pitch ที่ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนการต่อยอดและพัฒนาโครงการ จำนวน
100,000 บาท ทางทีมงานจะนำเงินจำนวนนี้ไปจัดหาเครื่องลำเลียงและผสมปุ๋ยระบบอัตโนมัติ
มีการทำงานได้ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณภาพปุ๋ย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
และลดการใช้แรงงานในการผลิต สามารถแบ่งปันให้เกษตรกรได้มากขึ้น
โดยมีการเก็บบันทึกข้อมูลผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ
เพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Impact Valuation)
นายชูชีพ ชัยภูมิ
หรือ พ่อชีพ
ประธานศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
บ้านซับรวงไทร บอกว่า ผลลัพธ์ที่ได้จาก “โครงการปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร”
นอกจากซีพีเอฟจะสามารถลดของเสียที่ต้องฝังกลบเปลือกไข่กลายเป็นศูนย์ตันต่อปีแล้ว
ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้ยังนำไปแจกจ่ายให้กับชุมชน เกษตรกรในเครือข่าย
รวมถึงหน่วยงานต่างๆ รวม 63 ราย ได้ปุ๋ยใช้ประโยชน์มากกว่า 150 ตันต่อปี มีเกษตรกรนำปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่กว่า 400
ไร่ และจากการวิเคราะห์ทางเคมี พบว่าปุ๋ยมีธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง
เป็นธาตุอาหารที่ทำให้พืชผักโตเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตร
ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 20%
“กลุ่มปลูกผักปลอดภัยบ้านซับรวงไทร
ที่มีสมาชิก 44 ราย ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก 29 ไร่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟตั้งแต่เรื่องการดูแลระบบการจัดการน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกมาตั้งแต่ปี
2561 ทำให้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูกพืชได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งได้รับการสนับสนุนมูลไก่
เปลือกไข่ และน้ำหมักเพื่อทำปุ๋ย สร้างมูลค่าเศษเหลือทิ้งเป็นทองคำในดิน
ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
ทำให้ชุมชนจำหน่ายผักได้อย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือน เป็นรายได้เสริมจากอาชีพหลัก
อย่างการทำนา ทำไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชที่ราคาผันผวน
ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่มีกำลังไปทำไร่ทำนา ก็สามารถปลูกผักปลอดภัยไว้บริโภคเองและนำผลผลิตมาจำหน่ายสร้างรายได้อีกทาง”
พ่อชีพ กล่าว
ทางด้าน นางเมืองพร ชนะพาล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ เล่าว่า ตนเองมีอาชีพทำการเกษตร ทำนาข้าว ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และยังเป็นเกษตรกรรุ่นบุกเบิกที่ร่วมกับเพื่อนในชุมชนรวมตัวกันปลูกผักปลอดภัย จากนั้นทางซีพีเอฟเข้ามาช่วยสนับสนุนอุปกรณ์เก็บน้ำและกระจายน้ำ ร่วมกันก่อตั้งและสร้างตลาดชุมชน ดูแลวางแผนการตลาด หาช่องทางการจำหน่าย พักน้ำไว้ใช้เพาะปลูก และยังสนับสนุนการทำปุ๋ยให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี เป็นแนวทางลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี ลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนลงได้อย่างมาก ส่วนผลผลิตผักที่ได้ ทางซีพีเอฟเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการตลาด การจำหน่าย แนะนำลูกค้าให้ ขอบคุณซีพีเอฟที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง คนในชุมชนมีโอกาสได้ทำงานกับซีพีเอฟ ไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างพื้นที่ไกลๆ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ซึ่งไม่สามารถทำงานหนักได้ ก็มาทำหน้าที่ดูแลแปลงผักและมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตผักปลอดสารเคมี 100% ด้วย
“ปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกร”
เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมและชุมชนที่ชาวซีพีเอฟมุ่งมั่นดำเนินการอย่าง ต่อเนื่อง สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ด้วยการประยุกต์ใช้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
นำไปความเป็นนวัตกรรมเกิดเป็นสิ่งใหม่ที่สร้างประโยชน์ได้จริง
มีความเป็นไปได้ของโครงการเกิดคุณค่า ด้วยการเพิ่มมูลค่าจากเดิม
ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนและดูแลสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับปฏิบัติการขับเคลื่อนความยั่งยืน
CPF
2030 Sustainability in Action และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ
(Sustainable Development Goals : SDGs).
นายชูชีพ ชัยภูมิ หรือ พ่อชีพ ประธานศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ บ้านซับรวงไทร