ผบช.ภ.9 ย้ำมาตรการปิดกั้นพรมแดน ป้องกันโจรใต้ก่อเหตุหนีข้ามแดน

หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป,

อ่าน : 263
ผบช.ภ.9 คาร์บอมบ์หน้าบ้านคนนายอำเภอตากใบ
ผบช.ภ.9 ย้ำมาตรการปิดกั้นพรมแดน ป้องกันโจรใต้ก่อเหตุหนีข้ามแดน

นราธิวาส-ผบช.ภ.9 ตรวจสถานที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าบ้านคนนายอำเภอตากใบ เตรียมวางมาตรการปิดกั้นพรมแดน ยันจับตัวยากหากก่อเหตุแล้วหลบหนีไปอยู่มาเลเซีย


เมื่อวันที่ 1 ตค.67 เวลา 08.30 น. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าและรับทราบข้อเท็จจริงสถานการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์บนถนนหน้าบ้านพักของว่าที่ร้อยตรีจิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอตากใบ ซึ่งตั้งอยู่ ม.3 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน 67 ที่ผ่านมา โดยมีพล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส น.ท.มานพ สืบสาย ผบ.ฉก.นย.ทร.33  พร้อมปลัดอาวุโส อ.ตากใบ เจ้าหน้าที่ชุดอี.โอ.ดี.และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส คอยให้การต้อนรับ


พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ผบช.ภ.9 ตรวจดูสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ มีอาคารบ้านเรือนของชาวบ้าน กำแพงรั้วของกองร้อย อส.อ.ตากใบ รวมไปถึงกระจกบ้านพักของนายอำเภอตากใบบางส่วน อยู่ในสภาพถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย แต่ซากรถยนต์เก๋งที่ถูกเป็นใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิด เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายและเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ถึงเส้นทางของคนร้ายนำระเบิดมาวางคาร์บอมบ์ ที่ได้มีการหลีกเลี่ยงใช้แหล่งชุมชน เหมือนลักษณะมีการวางแผนไว้อย่างดี และคาดว่าจะมีกลุ่มคนร้ายทำหน้าที่ดูต้นทาง ในการแจ้งประสานให้คนร้ายที่ขับรถยนต์เก๋งที่แอบซุกซ่อนระเบิด ขับนำมาก่อเหตุซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางถึงจุดก่อเหตุต้องไม่เกิน 30 นาที ที่ระบบจุดชนวนระเบิดได้ตั้งเวลาในการทำงานไว้ในช่วง 21.51 น.หรือเพียง 21 นาทีเท่านั้นหลังจากบุกจี้รถยนต์เก๋งมาใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิด


นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ผบช.ภ.9 ยังได้สอบถามถึงความคืบหน้าทางคดีในเบื้องต้น ทราบว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกพยานบุคคลซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหาย มาให้ปากคำในเบื้องต้นแล้วเกือบแล้วเสร็จ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุส่วนใหญ่คาดว่าได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่เชื่อว่าคนร้ายบางส่วนยังหลบซ่อนตัวในพื้นที่


จากนั้น พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ผบช.ภ.9 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมเพื่อสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี ณ ห้องประชุม สภ.ตากใบ โดยที่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังและเข้าสังเกตการณ์ โดยใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ


พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ได้เปิดเผยหลังจากประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวแล้วเสร็จ ว่า ในเบื้องต้นคนร้ายปล้นรถยนต์จากพื้นที่ใกล้เคียง มาประกอบระเบิดวางในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นปล้นรถจักรยานยนต์ชาวบ้านแล้วหลบหนีไป กรณีคนร้ายจงใจหลบหนีเป็นลักษณะที่กระทำแบบนี้ในพื้นที่ อ.ตากใบ ได้คุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 ในการติดตามสถานการณ์ มีหลักฐานชัดแจน แต่เมื่อหลบหนีไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทำให้จับกุมตัวมาได้ยาก ในเบื้องต้นการตรวจพบถังดับเพลิงผลิตในประเทศมาเลเซีย จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ด้วยเหตุที่เป็นชายแดนที่เชื่อมต่อกันง่าย ทำให้ต้องหามาตรการปิดกั้นให้มีประสิทธิภาพกว่านี้ 


จะเกี่ยวข้องกับคดีจลาจลหน้า สภ.ตากใบ ในเรื่องนี้หน่วยกำลังถูกก่อเหตุใหญ่มาต่อเนื่อง ส่วนที่เชื่อมโยงกันก็อยู่ในยุทธศาสตร์ เป็นการแสดงศักยภาพลดความน่าเชื่อถือของรัฐ ซึ่งมีเหตุมาตลอด ส่วนคดีจลาจลหน้า สภ.ตากใบทางคดี ภ.9 ที่ฟ้องเองศาลออกหมายไปแล้ว ที่สภ.หนองจิก ได้รับสำนวนจากอัยการสูงสุด ได้ออกหมายจับ กำชับการสืบสวนติดตามมาโดยตลอด มีการออกหมายจับทั้ง 8 คน โดยออกหมายจับเมื่อวานที่ 30 ก.ย.67 


ขณะที่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ แบ่งหน้าที่กันทำตามปกติปล้นรถหลบหนี มีคนคอยดูต้นทาง จำนวนคนร้ายประมาณ 10 คนยังไม่แน่ชัด เป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เราต้องระวังเช่นการวางไว้หน้าบ้านพักนายอำเภอในส่วนกรณีเหตุที่ อ.แว้ง อยู่ในพื้นที่นราธิวาส คนร้ายแบ่งพื้นที่กันทำงาน ส่วนหนึ่งเราออกหมายจับควบคุมได้บางส่วนแล้ว ไม่หนักใจกรณีเกิดเหตุถี่ขึ้น ก่อนครบ 20 ปี เราต้องวางมาตรการป้องกันต่อไป


สำหรับผลการตรวจวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ จากเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา พบว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนำไปซุกซ่อนในรถยนต์เก๋งยี่ห้อ เอ็ม.จี.ทะเบียน 5 ขญ 1830 กทม.ที่ใช้อาวุธปืนอ็ม.16 จี้จากน.ส.มาเรียม ดอเลาะ ที่บ้านพักเลขที่ 44/6 ม.6 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 21.30 น.นั้น มีจำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย 1. ภาชนะบรรจุระเบิดไว้ในถังแก๊สหุ้งต้ม ขนาด 14 ก.ก.สีฟ้าผลิตในประเทศมาเลเซีย 2. ระบบจุดชนวนระเบิดมี 2 ระบบ ด้วยกันคือ วิทยุสื่อสาร วงจร DTMF V13 สีดำ , วงจร DIGITAL 3. ส่วนสังหารเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน ขนาด 8 และ 9 ม.ม. 4. แหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ลิเธี่ยม ขนาด 3.7 โวลต์ 5. ชิ้นส่วนของแกลลอนใส่น้ำมันเชื้อเพลิง ขนาดบรรจุ 10 ลิตร และ 6. ดินระเบิดหลัก อยู่ในช่วงรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง


รายงานข่าวจากแหล่งข่าวหน่วยความมั่นคงที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนร้ายใช้ถังแก๊สหุ้งต้มจากประเทศมาเลเซีย แอบลักลอบนำเข้ามาประกอบระเบิด และเมื่อก่อเหตุแล้วเสร็จจะแอบลักลอบหลบหนีไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้านทุกครั้ง โดยเฉพาะหลังก่อเหตุในพื้นที่อำเภอที่ติดอยู่กับแนวชายแดนของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้เลย ถึงแม้จะรู้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุจากผลตรวจสอบทางกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์แล้วก็ตาม ซึ่งเป็นปลายทางที่กลุ่มคนร้ายหลบหนีคดีหลังก่อเหตุแล้วเสร็จเสมอมา.