ผวจ.พัทลุง จี้การตรวจสอบการบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชนยังไม่คืบหน้า ให้ตายอำเภออำเภอแต่งตั้งคณะทำงานลงพื้นที่แล้ว เพื่อสำรวจการบุกรุกทุกแปลงให้ชัดเจน ส่วน กอ.รมน.ยันจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
ชาวพัทลุงติดตามกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์ “ จำนวน 3,727 ไร่เศษ เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น เร่งสำรวจผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่อยู่นอกเหนือบัญชีผู้ยากจน ยากไร้ จำนวน 397 ครัวเรือน ในขณะที่ ร.ต.อนุกูล สุภาไชยกิจ อดีต สว.พัทลุง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา และนายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุง ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มผู้บุกรุกที่ไม่ใช่ผู้ยากจน ยากไร้ ออกจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมฝากถึงข้าราชการบางราย ผู้นำท้องถิ่นบางคน หากรู้ว่าตนเองเข้าไปบุกรุกที่ดินดังกล่าวขอให้รีบออกมาจากพื้นที่โดยเร็ว ตามที่ทีมข่าวรายงานติดต่อกันมานั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2563 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดมิได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด ได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง แต่งตั้งคณะกรรมการในระดับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น เข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานแล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานที่แน่นอน เนื่องจากจะต้องให้มีการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาบุกรุกอย่างถี่ถ้วน ละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนนายพงศ์เทพ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้เรียกปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบของ ต.ชัยบุรี ต.ลำปำ ที่มีชาวบ้านเข้าไปบุกรุกสร้างที่ทำกินดังกล่าว กำชับให้มีการควบคุมดูแลการสำรวจ ตรวจสอบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เน้นย้ำให้ อปท. ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และให้รายงานผลให้ทางอำเภอได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบในครั้งนี้จะต้องมีการสำรวจผู้บุกรุกทุกราย / ทุกแปลง โดยไม่มีการยกเว้นครอบครัวผู้ยากจน ผู้ยากไร้ เพื่อต้องการให้ทราบถึงข้อมูลที่ชัดเจน และแน่นอน หลังจากนั้นจะได้นำข้อมูลผู้บุกรุกเข้าไปดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่าหากผู้ใดที่รู้ตัวว่าตัวเองมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ขอให้ออกจากพื้นที่โดยเร็วก่อนที่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะเข้าไปตรวจสอบเป็นรายแปลง /รายบุคคล
ด้าน พ.อ.พิชิต โชติแก้ว รอง ผอ.รมน.จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า เมื่อทาง กอ.รมน.จังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินดังกล่าว และพบว่ามีการบุกรุกที่ดินดังกล่าวจริงแล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องของทางจังหวัดที่จะเข้าไปสำรวจ ตรวจสอบ การบุกรุกที่ดินดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป ทาง กอ.รมน.จังหวัดพัทลุง คงไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ทาง กอ.รมน. จะติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และจะได้รายงานความคืบหน้าผลการสำรวจตรวจสอบการบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป.