ผู้การฯพัทลุง ขอกำลัง บช.ภ.9 จับผู้ต้องหาทุจริตสหกรณ์ ตร.และตามยึดทรัพย์
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 1 พ.ค. 2565, 14:27 น. อ่าน : 1,091พัทลุง-ผู้การฯพัทลุงยื่นเรื่องให้ บช.ภ.9 เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาการออกหมายจับ จนท.รัฐในคดีทุจริตโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ด้านตำรวจยศ”พันตำรวจโท” เตรียมยื่นฟ้องสหกรณ์ฯอีก 1 ราย
ใกล้งวดเข้ามาแล้ว คดีขบวนการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ในขณะที่ ผบก.ภ.จว. พัทลุงได้จัดประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อสรุปความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีดังกล่าวแล้ว ด้านอดีต ผกก.รายหนึ่งได้ยื่นฟ้องสหกรณ์ฯ หลังจากที่ยื่นใบลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ฯ แต่ไม่ได้ค่าหุ้นประมาณ1.5 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 1 พ.ค.2565 ว่า พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า คดีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจำนวนหลายราย ดังนั้นเพื่อให้การออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นไปด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนจึงได้มีหนังสือถึงพล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ..9 เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามามีส่วนร่วมที่สำคัญ ในการพิจาณาสำนวนการสอบสวน ตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป ซึ่งการพิจารณาการออกหมายจับในครั้งนี้จะเป็นการพิจารณาร่วมกันของพนักงานสอบสวน บก.ภ.จว.พัทลุง ตำรวจยช.ภ.9 และตำรวจชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวของ สตช.ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ.
นอกจากนี้ทาง พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ยังได้มีหนังสือถึง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวลผบช.ภ.9 เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ตำรวจ บช.ภ.9 เข้ามามีบทบาทสำคัญร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวนของบก.ภ.จว.พัทลุง เนื่องจากการขยายผลการสืบทรัพย์ของกลุ่มผู้ทุจริตในคดีดังกล่าวพบว่าทรัพย์สินบางส่วนมีการเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัด จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจาก บช.ภ.9 ซึ่งมีขอบข่ายหน้าที่ในวงกว้างหลายจังหวัดได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบทรัพย์และยึดทรัพย์ในครั้งนี้ด้วย
ทางด้านนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ซึ่งเป็นอดีต ผกก.สภ.แห่งหนึ่งของ จ.พัทลุง ซึ่งได้ยื่นฟ้องต่อสหกรณ์ฯต่อศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อขอเงินค่าหุ้นคืนไปก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า มิใช่แค่เพียงตนเท่านั้นที่จะยื่นฟ้องขอรับเงินค่าหุ้นคืนจากสหกรณ์ฯ ขณะนี้ได้มีนายตำรวจหญิงยศ “พันตำรวจโท“ ซึ่งมีสามีเป็นนายตำรวจด้วยกัน กำลังเตรียมเอกสาร หลักฐาน เพื่อมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องสหกรณ์ฯเพื่อขอค่าหุ้นคืนด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าทางสหกรณ์ฯไม่มีสิทธิ์ที่ไม่จ่ายเงินค่าหุ้นให้กับสมาชิกหากสมาชิกลาออก เนื่องจากการทุจริตดังกล่าวเป็นความผิดพลาด บกพร่อง ประมาทเล่นเล่อ ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ทำให้มีการทุจริตเกิดขึ้นมากถึงกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.