ผู้การฯพัทลุง เผยคดีทุจริตสหกรณ์ ตร. จะจับเป็นชุดเหมือนคดีลักรังนกฯ

พัทลุง-เผยการจับกุมผู้ต้องหาคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง น่าจะมีการจับกุมเป็นกลุ่มเหมือนคดีรังนก  ส่วนกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกออกหมายจับหลายคนมีอาการเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า  เก็บตัวเงียบ 

จากกรณีมีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท และมีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในกลุ่มจะถูกออกหมายจับนั้น มีประมาณ  50 ราย โดยผู้ต้องหาจะโดนดำเนินคดีทั้งอาญา คดีแพ่ง และถูกตรวจสอบทรัพย์สินจาก  ป.ป.ง. หากผู้ต้องหาโดนฟ้องร้องในคดีแพ่งที่ไม่สามารถชดใช้หนี้ให้กับสหกรณ์ฯได้ ก็จะมีการยื่นฟ้องบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลล้มละลายตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย  และนำไปสู่ถูกออกจากราชการในที่สุด  ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้าคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  การทำคดีนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ที่ได้รับมอบหทายจาก ผบ.ตร.ให้มาคีมคดี ได้กำชับให้ทีมสืบสวนสอบสวนทำงานให้รุดกุม เพื่อจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดทั้งขบวนการ ขณะนี้แนวทางการพิจารณาการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาต่อศาล จะเป็นการสรุปผลเรื่องดังกล่าวระหว่าง พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์  ผบก.ภ. จว.พัทลุง พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ. จว.พัทลุง พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ผบก.อธ. และ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ปานดำ ผกก.(กลุ่มงานสอบสวน) ภ.9 เนื่องจากในขณะนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ผบก.อธ. อยู่ในระหว่างการนำพนักงานสอบสวนของ สตช.ไปคลี่คลายคดี “มังกรฟ้า“ ใน จ.ปทุมธานี  หากพนักงานสอบสวนได้รับหลักฐานทางด้านธุรกรรมการเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง  และหลักฐานการตรวจข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ทาง พล.ต.ต.ไพโรจน์ฯจะเดินทางมาร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.ตานิตย์  รามดิษฐ์  ผบก.ภ.จว.พัทลุง  และคณะเพื่อสรุปชื่อผู้ที่จะออกหมายจับในคดีดังกล่าวต่อไป

พล.ต.ต.ตานิตย์  รามดิษฐ์  ผบก.ภ.จว. พัทลุง  เปิดเผยว่า  จากการที่มีการทุจริตในสหกรณ์ฯมานานถึงประมาณ  20  ปี  ทางพนักงานสอบสวนจะต้องนำผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทุกราย  โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์ฯ  ซึ่งผู้ที่จะถูกออกหมายจับนั้นต้องมีหลักฐาน พยาน  และเอกสาร ที่เชื่อได้ว่าเป็นผู้ร่วมกันกระทำความผิดและต้องเชื่อได้ว่ามีเจตนา  รู้เห็น  และได้รับผลประโยชน์ในการทุจริตในครั้งนี้ ดังนั้นการพิจารณาออกหมายจับใครนั้นจะต้องรอบคอบ  เป็นธรรม  ส่วนในการขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดพัทลุงนั้น น่าจะขอหมายจับเป็นกลุ่มเหมือนกับคดีรังนกที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับการแจ้งจากหัวหน้าโรงพักว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกออกหมายจับนั้นหลายคนมีลักษณะคล้ายโรคซึมเศร้า  เก็บตัวเงียบ จึงได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาดูแลบุคคลดังกล่าวแล้ว ในส่วนของการ “ Set zero “ ตามคำแนะนำของหลายๆฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยากที่จะกระทำได้  แต่ทาง  ภ.จว.พัทลุง จะร่วมกันแก้ปัญหาสหกรณ์ฯร่วมกับทุกฝ่ายให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางด้านสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 9 สงขลา และเจ้าหน้าที่ตรวจบัญชีสหกรณ์พัทลุง ได้เข้ามาตรวจสเตทเม้นท์ (Statement) การแจ้งข้อมูลทั้งหมดของการเคลื่อนไหวภายในบัญชี เช่น การฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ของธนาคารแห่งหนึ่งว่าตรงกับการเคลื่อนของบัญชีของสหกรณ์ฯหรือไม่  หลักฐานดังกล่าวจะอยู่ในช่วงระยะเวลา 10 ปี  หากสเตทเม้นท์ (Statement) ไม่ตรงกันก็เชื่อได้ว่าการทุจริตเงินของสหกรณ์ฯจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ซึ่งหลักฐานดังกล่าวจะเป็นหลักฐานที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่จะนำไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมกันกระทำความผิดจนไม่สามารถดิ้นหลุดได้  ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.