ผู้ปกครองพาเด็ก 5-11 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเปิดเรียน มั่นใจช่วยป้องกันได้

หมวดหมู่ : ตรัง, ทั่วไป,

อ่าน : 616
วัคซีนป้องกันโควิด-19 วัคซีนเด็ก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง
ผู้ปกครองพาเด็ก 5-11 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเปิดเรียน มั่นใจช่วยป้องกันได้

ผู้ปกครองนำเด็กอายุ 5-11 ขวบ แห่รับวัคซีนอย่างคึกคัก ขณะแม่รายหนึ่งเผย มั่นใจฉีดวัคซีนปลอดภัยกว่าไม่ได้ฉีด ส่วนผู้ว่าฯ ตรัง แปลงโฉมเป็นการ์ตูนยอดมนุษย์ เข้าให้กำลังใจเด็กที่เข้ารับวัคซีนครั้งนี้


      เมื่อวันที่ 16 ก.พ.65 เวลา 09.00 น.นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย นายแพทย์ ตุลกานต์ มักคุ้นโฆษก ศบค.ตรัง ได้เดินทางมาให้กำลังใจทีมแพทย์สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฉีดยาวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ขวบ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง พร้อมให้กำลังใจผู้ปกครองในการนำเด็กมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่ ศบค.ตรัง จะประกาศให้เปิดเรียนได้พร้อมกันในวันที่ 16 พ.ค.65 ที่จะถึงนี้


      นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้สร้างบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่างเด็กๆ กับคุณหมอ เป็นบรรยากาศการฉีดที่ดูไม่น่ากลัว โดยให้หมอ พยาบาล แต่งตัวเป็นการ์ตูนต่าง ๆ มาสร้างสีสันให้กับเด็ก สร้างความอุ่นใจว่ามาฉีดวัคซีนกึ่งมาเที่ยว มาเจอคนอื่นด้วย และเป็นการบอกต่อว่ามาฉีดแล้วไม่เจ็บ 


      ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ใน จ.ตรัง ยังคงที่เพราะมีการประเมินและมีการประชุม ศบค.ทุกสัปดาห์ดูว่าเป็นคลัสเตอร์กลุ่มไหนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งตอนนี้ให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนแบบ ONSITE สำหรับนักเรียนก็มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อมโรงเรียนต่าง ๆ จัดเตรียมเป็น  school quarantine ซักซ้อมการปฏิบัติจริง เมื่อเกิดระบาดในโรงเรียนแล้วโรงเรียนจะทำอย่างไร ประสานกับผู้ปกครองอย่างไร เราเอาจากในแผนมาปฏิบัติจริง ส่วนคลัสเตอร์อื่นๆ ยังทำงานเชิงรุกเร่งค้นหาตรวจ ATK  ซึ่งยอดคนที่ติดตอนนี้อยู่ที่ 50 คนต่อวัน ซึ่งอยู่ในสภาวะที่เรายังควบคุมได้อยู่


      ด้าน นายแพทย์ตุลกานต์ กล่าวว่า วันนี้เปิดฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ขวบที่อยู่ในระบบการศึกษา 2,600 คน และอยู่นอกระบบการศึกษา 100 คน ส่วนเด็กป่วยนั้นได้แยกต่างหาก เช่นเด็กที่มีโรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วนปอด ไต มะเร็ง โรคเรื้อรัง กลุ่มนี้ก็จะฉีดแยกที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งเด็กที่ฉีดวันนี้คือกลุ่มเด็กที่ปกติทั้งหมด ส่วนการสังเกตอาการได้ให้ผู้ปกครองสังเกตอาการใกล้ชิด 30 นาที หลังจากนั้นจึงจะอนุญาตให้เด็กกลับบ้านได้ และมีการสังเกตอาการต่อเนื่องที่บ้านเป็นเวลา  7 วัน โดยงดออกแรงยกของหนัก ออกกำลังกายต่าง ๆ ก็จะทำให้เด็กปลอดภัย 


      “เรามั่นใจในประสิทธิภาพของวัคซีนการป้องกันโรครุนแรงและความปลอดภัย ส่วนที่โรงพยาบาลตรังได้ฉีดวัคซีนให้กับเด็กในกลุ่ม 7 โรคไปแล้ว 100 คนซึ่งเด็กปกติจะฉีดวัคซีนห่างจากเข็ม 1 แปดสัปดาห์  17 เม.ย.นี้ จะนัดฉีดเข็ม 2 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจำนวนเด็กกลุ่มนี้52,300 กว่าคน ลงทะเบียนแจ้งความจำนงแล้ว 38,000 คน ประมาณ 74% ถือว่าสูงที่สุดใน 7 ภาคไต้ตอนล่าง ส่วนที่เหลือหมื่นกว่าคนคาดว่าจะทำความเข้าใจพูดคุยกับผู้ปกครองในลำดับต่อไป เพื่อเอื้อต่อการเปิดภาคเรียนที่1/2565”นายแพทย์ตุลกานต์กล่าว


      ขณะที่ นางพิมลรัตน์ ศิริพันธ์  อสยุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 5 ต.ทุ่งค่าย อ. ย่านตาข่าว จ.ตรัง เป็นผู้ปกครองเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองตัดสินใจให้ลูกฉีดวัคซีนเพราะอยู่ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดเยอะ แถวชุมชนโรงงานใกล้บ้านก็มีคนติดเยอะ ทางโรงงานตรวจพนักงานทุกสัปดาห์ ตนเองอยากให้เด็กได้ฉีดด้วยอย่างน้อยเด็กจะได้ไปโรงเรียนเหมือนกับคนอื่นที่เขาเปิดเรียนแล้ว ถ้าถามว่าเด็กจะปลอดภัยเกินร้อยหรือไม่นั่น ตนยอมรับว่าไม่เต็มร้อยแต่มันอยู่ที่การป้องกันของเรา การสวมหน้ากากอนามัย เป็นการช่วยเด็กอย่างหนึ่ง แต่การฉีดวัคซีนอย่างน้อยก็มีภูมิคุ้มกันให้เด็ก ถึงจะติดโควิด-19 อาการไม่รุนแรงเท่าไหร่ ส่วนเข็ม 2 ก็จะให้ฉีดวัคซีนเหมือนเดิม.