พงส.คดีโกงเงินสหกรณ์ ตร.พัทลุงนำ 26 ผู้ต้องหาและสำนวนส่งอัยการแล้ว

พัทลุง-พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด 

 50,000 แผ่น พร้อมผู้ต้องหา26 ราย ส่งพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุงแล้ว

คดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่ทำกันเป็นขบวนการ ทำให้เกิดความเสียหายวงเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท จนนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย โดยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 65  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนางชลธิชา ดาวเรือง ผอ.กองคดี 3 ปปง. และคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวปิดคดีการทุจริตเงินสหกรณ์ รวมทั้งยึดทรัพย์สินจากกลุ่มผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 1,003,753,140.-บาท  มีการสอบปากคำพยานมากกว่า 959 ราย เอกสารในสำนวนมีมากกว่า 50,000 แผ่น  ในขณะที่ทาง  ปปง.กำลังดำเนินการฟ้องแพ่งกับกลุ่มผู้ต้องหาตาม  พรบ.ฟอกเงิน   ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น 

ความคืบหน้าคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อตอนสายวันที่ 19 ก.ย.2565 ที่  สภ.เมืองพัทลุง 

 พ.ต.ท.ศิริพงษ์  สุขแก้ว  สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง  และ ร.ต.อ.วิชัย  อำพัน  รอง  สว.(สอบสวน) สภ.เกาะนางคำ  ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดสอบสวนของคดีทุจริตสหกรณ์ฯตามคำสั่งของ  สตช.พร้อมพวก  ได้ร่วมกันนำสำนวนคดีการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง  จำกัด จำนวน  95  แฟ้มขนาดใหญ่  ที่บรรจุลงในลังกระดาษ จำนวน 20 ลัง ใส่รถควบคุมตัวผู้ต้องหา  พร้อมนำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 คน  ส่งพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง  เพื่อให้พนักงานอัยการได้มีความเห็นทางคดีต่อไป โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26  คน ได้ใช้หลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัวในวันเข้ามอบตัว ซึ่งใช้ตำแหน่งประกันตัวได้ประกันตัวในชั้นอัยการทุกคน

สำหรับความผิดที่พนักงานสอบสวนส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้องนั้น ผู้ต้องหาที่ 1- 8  และ 12  มีความผิดฐานลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป,  ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง,  ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ์และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม  และร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม  และผู้ต้องหาที่  5  ผิดเพิ่มเติมฐานเอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์  ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ผู้ต้องหาที่  9 – 11  มีความผิดฐานลักทรัพย์  โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันทั้งแต่ 2 คนขึ้นไป , ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองนายจ้าง และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม  ผู้ต้องหาที่  13,14,18,20,22,26 และ 27  มีความผิดฐานลักลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่  2  คนขึ้นไป และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม 

ผู้ต้องหาที่ 15,16,17,19,21,23, และ 24  มีความผิดฐานลักทรัพย์  โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันทั้งแต่  2  คนขึ้นไป, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม  และร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม  และผู้ต้องหาที่  25  มีความผิดฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด  หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต  โดยเหตุเกิดเมื่อระหว่างปี  พ.ศ.2542  ถึงวันที่  28  กุมภาพันธ์  2564  เวลากลางวันต่อเนื่องกัน  โดยราคาทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายมีราคา  1,489,572.14  บาท ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.