พบรอยเท้าเสือโคร่งไม่ยอมเข้าป่า วนเวียนในสวนทุเรียน

หมวดหมู่ : ยะลา, ทั่วไป,

อ่าน : 400
กำนันและหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบรอยเท้าเสือโคร่ง ในสวนทุเรียน รอยเท้าเสือโคร่ง
พบรอยเท้าเสือโคร่งไม่ยอมเข้าป่า วนเวียนในสวนทุเรียน

ยะลา-กำนันและหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบรอยเท้าเสือโคร่ง ยังคงวนเวียนในพื้นที่ พบรอยเท้ากว่า 10 รอย ในสวนทุเรียน เตือนชาวบ้านที่มีสวนใกล้ป่า ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากไม่จำเป็นช่วงนี้งดเข้าสวน


     เมื่อ วันที่ 20 พ.ย.66 เวลา 09.00 น. นายมูฮัมหมัดกอรี กาเซ็ง กำนันตำบลยะรม พร้อมด้วยนายฮารง บาซอหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติบางลาง ที่ บล.3 (จุฬาภรณ์พัฒนา10) นายวุฒิชัย แก้วนพรัตน์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 

เบตง นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติบางลาง, ป่าไม้, ตำรวจ สภ.ยะรม, ตชด., อส., ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน กว่า 30 คน เข้าตรวจสอบหารอยเท้าเสือโคร่ง พร้อมหาร่องรอยที่เสือเดิน หลังจากที่ยังมีชาวบ้านพบร่องรอย และรอยเท้าเสือ ในพื้นที่บ้านจันทรัตน์ หมู่4 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา  


     เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก เข้าสำรวจถนนสายกงสีใหญ่ ที่สองพ่อลูกกรีดยางพาราพบเสือโคร่งกำลังเดินอยู่ในป่าสวนยาง เมื่อช่วงเช้า วันที่ (13 พ.ย.) ที่ผ่านมา ส่วนชุดที่ 2 เข้าสำรวจ ถนนสายวาดิน ม.4 ต.ยะรม หลังจากที่เมื่อวานช่วงเย็นมีชาวบ้านมาแจ้งว่าพบรอยเท้าเสือ จากการสำรวจเจ้าหน้าที่ชุดแรก พบรอยเท้าเสือโคร่ง ในสวนทุเรียน ของนายศักดิ์ชัย วิทยาสุนทร ประมาณ 10 กว่ารอย ซึ่งพบว่าเป็นรอยเท้าใหม่ เสือคงพึ่งเดินผ่านไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หรืออาจเป็นช่วงเช้า รอยเท้ามาจากในป่าฝั่งตรงข้ามสวน และเสือเดินมุ่งหน้าไปยังป่าอีกฝั่งจุดนี้อยู่ห่างจากที่สองพ่อลูกพบเสือประมาณ 5 กิโลเมตร


     นายศักดิ์ชัย เล่าว่า ตนเข้ามาให้อาหารสุนัขที่เลี้ยงไว้และทำสวนทุเรียน หลังจากที่ให้อาหารสุนัขเรียบร้อย ตนก็เดินขึ้นเขามาเพื่อจะมาปลูกทุเรียนที่เตรียมมา ก็มาพบรอยเท้า แต่ก็ไม่ทราบว่า เป็นรอยเท้าอะไร เมื่อวานเข้ามาก็ยังไม่เห็นมีรอย พอขึ้นมาถึงบริเวณถนน ก็พบเจ้าหน้าที่ขับรถผ่านมาพอดี จึงบอกให้เจ้าหน้าที่ทราบ และนำเจ้าหน้าที่ลงไปดู จึงรู้ว่าเป็นรอยเท้าเสือโคร่ง หลังจากรู้ว่าเป็นรอยเท้าเสือ ตนก็คงงดเข้าสวนก่อนในระยะนี้


     ด้านเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ที่เข้าสำรวจ ถนนสายวาดิน ก็พบรอยเท้าเสือ เช่นกัน แต่เป็นรอยเท้าเก่า ซึ่งหลังจากที่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ชุดแรกพบรอยเท้าเสือรอยใหม่ บริเวณสวนทุเรียน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าสำรวจ ถนนสายฮอซั่น ซึ่งอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำยะรม ประมาณ 4-5 กิโลเมตร เพราะถนนเส้นนี้มีป่าที่เชื่อมต่อกับจุดที่เจ้าหน้าที่ชุดแรกพบรอยเท้าเสือโคร่งในสวนทุเรียน ซึ่งก็เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ บริเวณนี้ เจ้าหน้าที่ก็พบรอยเท้าของเสือโคร่ง ซึ่งเดินขึ้นไปบนป่าสันเขา ก่อนที่จะลงไปที่บริเวณสวนทุเรียน จึงทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า เสือโคร่งตัวนี้ยังคงไม่ไปไหน ยังคงวนเวียน อยู่ในละแวกนี้


     นายมูฮัมหมัดกอรี กาเซ็ง กำนันตำบลยะรม จึงแจ้งบอกให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านและผู้ที่มีสวนอยู่ในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง เพราะเสือยังคงวนเวียนอยู่ โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีสวนอยู่ติด หรือ ริมป่าแก่ ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากไม่จำเป็นขอให้งด อย่าพึ่งเดินทางเข้าสวนในช่วงนี้ เพราะรอยเท้าเสือที่พบบริเวณสวนชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นสวนที่อยู่ติดป่าใกล้ป่า ในขณะที่บริเวณทางเข้าถนนสายกงสีใหญ่ ก็ได้มีการนำป้ายมาติดแจ้งเตือนชาวบ้านให้งดเข้าสวน และให้ระวังเสือ เพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านที่เดินทางเข้าไปโดยไม่รู้ว่าบริเวณนี้มีเสือโคร่งออกมาจากป่า.














อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :