พบหลักฐานเด็ดมโหฬาร คดีทุจริตโกงเงินสหกรณ์ ตร.พัทลุง ยัดใส่ห้องเก็บของ
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 29 มี.ค. 2565, 10:35 น. อ่าน : 988พัทลุง-ตำรวจพบหลักฐานเด็ดถูกซุกซ่อนเก็บไว้ในห้องเก็บของบนสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” สั่งขุดรากถอนโคนการทุจิตเงินสหกรณ์ตำรวจพัทลุงให้หมดสิ้น
ยิ่งตรวจสอบยิ่งพบหลักฐานมากมาย กรณีที่มีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด มูลค่าไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท จนทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. หัวหน้าชุดทำคดีลักรังนกฯพีทลุง นำทีมงานเข้ามาช่วยเหลือในการสอบสวนคดีดังกล่าว ร่วมกับชุดสอบสวนภ.9 และ ชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง โดยพบว่าการโกงในครั้งนี้ไม่มีเอกสารรองรับ โกงแบบหน้าด้านๆ และพบที่เดียวแห่งแรกของประเทศไทย โดยเฉพาะการตบแต่งบัญชีผีนั้น พบรายชื่อคนที่เสียชีวิตไปนานหลายปีมากถึง 81 ราย เป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตนในทะเบียนราษฎร์มากกว่า 200 ราย ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ทีมข่าวไทยแหลมทองซึ่งทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลางรายงานว่า จากการที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. เร่งระดมสรรพกำลังนายตำรวจที่มีประสบการณ์จาก สตช. และ จนท.ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ เข้ามาร่วมคลี่คลายในคดีดังกล่าว ได้พบว่าการทุจริตในสหกรณ์ฯเป็นสิ่งที่หลายคนคาดคิดไปไม่ถึง ทาง พล.ต.ต.ไพโรจน์ฯจึงได้รายงานปัญหาการทุจริตในด้านต่างๆให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้รับทราบโดยละเอียด รวมทั้งผลการสอบปากคำคณะกรรมการสหกรณ์ฯ และผู้เกี่ยวข้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ จึงได้ประสานให้ ตร.ภ.จว.หนองบัวลำภู ที่มีประสบการณ์ด้านการเงินและบัญชีลงพื้นที่พัทลุงอีก 4 คน เพื่อเร่งการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างเฉียบขาดแบบขุดรากถอนโคนทั้งนี้เพื่อมิให้การทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นในสหกรณ์ตำรวจของจังหวัดต่างๆอีกต่อไป
ส่วนกรณีที่ตำรวจหญิงรายหนึ่งของ สตช. ขึ้นไปใช้ห้องน้ำบนสหกรณ์ตำรวจฯ ได้เห็นว่ามีการใส่กุญแจล็อกห้องเก็บของบนสำนักงานฯอย่างแน่นหนาจนผิดสังเกต จึงรายงานให้ พล.ต.ต. ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. ขึ้นไปตรวจสอบและขอให้เปิดห้องเก็บของเพื่อตรวจค้นเอกสาร รวมถึงหลักฐาน ที่คาดว่าเป็นหลักฐานของการกระทำความผิด ปรากฏว่าจากการตรวจค้นห้องเก็บของดังกล่าวทาง ตำรวจ สตช.ได้พบเอกสารหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นร่องรอยของการทุจริตเงินสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตบแต่งบัญชี จนเป็นที่ตื่นตกใจของชุดสอบสวนของ สตช. แต่ทาง พล.ต.ต.ไพโรจน์ฯได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้
สำหรับการสอบปากคำคณะกรรมการผู้บริหารสหกรณ์ตำรวจ กรรมการสหกรณ์ ผู้ตรวจสอบบัญชีของตำรวจ ภ.จว.พัทลุง และ จนท.สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงนั้น ยังต้องใช้เวลาการสอบปากคำอีกหลายวัน หรืออาจนานถึง 2-3 เดือน โดยในขณะนี้เบื้องต้นจะมีกลุ่มบุคคลคนดังกล่าวที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตเงินสหกรณ์ฯประมาณ 35–40 รายส่วนจะเพิ่มขึ้นหรือจะลดลงกว่าเดิมก็ขึ้นอยู่กับสำนวนการสอบสวน ซึ่งบรรดาสมาชิกสหกรณ์ตำรวจโดยส่วนใหญ่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการคลี่คลายคดีดังกล่าวจะพบเรื่องอื้อฉาว และพบการทุจริตแบบเย้ยฟ้าท้าดินมากถึงขนาดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยเฉพาะการจ่ายเช็คที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น พบว่าในปี พ.ศ.2557 – 2561 พบเช็คดังกล่าวมากถึง 28 เล่ม ในขณะที่การคลี่คลายคดีดังกล่าวมีการดำเนินการสอบพยาน การขยายผลไปสู่การรวบรวมเอกสาร หลักฐาน โดยไม่มีการหยุดพักวันเสาร์-อาทิตย์ แต่อย่างใด และพล.ต.ท.สุรเชษฐ ลงพื้นที่ จ.พัทลุงเพื่อติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีดังกล่าว ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม2565 เช่นกัน ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.