พ.ต.อ.1ใน24 ผู้ต้องหา แฉทุจริตสหกรณ์ฯตร. มีขบวนการ-รอเผยกับ”บิ๊กโจ๊ก”
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 4 มิ.ย. 2565, 16:08 น. อ่าน : 1,091พัทลุง-อดีต ผกก.ยอมเผยตัวน้อมรับการถูกออกหมายจับ คดีทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และจะขอต่อสู้ตามขั้นกระบวนการยุติธรรม พร้อมอยากพบ “บิ๊กโจ๊ก“ และผู้บังคับบัญชา เพื่อให้รายละเอียดการทุจริตในสหกรณ์ให้รับทราบ
คดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. ฉายา “ผู้การฯรังนก” นำทีมงานเข้ามาช่วยเหลือในการสอบสวนคดีดังกล่าว ร่วมกับชุดสอบสวน บช.ภ.9 และ ชุดสืบสวน บก.ภ.จว.พัทลุง เพื่อ ขยายผลคดีดังกล่าว ต่อมาเมื่อตอนเย็นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน24 ราย เป็น จนท.สหกรณ์ฯ จำนวน 8 ราย ซึ่งถูกสหกรณ์ฯเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ และกลุ่มที่มีพยานหลักฐานปรากฏว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดการทุจริตในสหกรณ์ฯ จนทำให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย จำนวน 16 คน และวันนี้รายชื่อผู้ถูกออกหมายจับทั้ง 24 คน ยังไม่ได้ลงในระบบข้อมูลอาชญากรรมเหมือนคดีทั่วๆแต่อย่างใด ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ พล.ต.ต.ตามนิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถเผยรายชื่อ ยศ ตำแหน่ง ของผู้ถูกออกหมายจับได้ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในส่วนของการเป็นความลับของทางราชการ และไม่อยากจะละเมิด พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ออกมาบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นส่วนจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 24 คนนั้น ทางพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ฝ่ายจะได้หารือกันอีกครั้ง แต่รายชื่อกลุ่มผู้ต้องหานั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบแล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดต่อสื่อมวลชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนเที่ยงวันที่ 3 มิถุนายน 2565 พ.ต.อ.ชำนาญ คงชู อดีต ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี บก.ภ.9 ได้พาครอบครัวมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทลุง ปรากฏว่าได้มีพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนหลายคนโทรศัพท์และเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจ หลังจากที่ทราบว่า พ.ต.อ.ชำนาญฯ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.ชำนาญ ฯ ยอมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จริงๆ แล้วกระบวนการจัดการของสหกรณ์มีขบวนการที่ซ่อนเร้นและอำพรางอยู่เยอะ สำหรับตนที่ได้รับเลือกเป็นประธานดำเนินงานสหกรณ์ฯมา 4 สมัยนั้น ก็ได้มีส่วนร่วมในการค้นหาความจริงการทุจริตมาจนถึงขณะนี้ ซึ่งกระบวนการกระทำความผิดอยู่ในการสอบสวนของตำรวจแล้ว และเห็นด้วยกับกระบวนการยุติธรรมที่จะนำคนกระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และการติดตามความเสียหายคืนกลับมาสู่สหกรณ์ ซึ่งในกระบวนการสอบสวนสืบสวนก็มีวิธีการในการจัดการกับผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย สำหรับตนที่ตกเป็นผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีความเสียใจ เพราะเชื่อว่ากระบวนการสอบสวนได้ดำเนินการไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนหมดกำลังใจจากการความซื่อสัตว์ ซื่อตรง ที่ได้ดำเนินการในสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่องในสมัยที่ตนเป็นประธานสหกรณ์ฯ
“ผมมีความมั่นใจว่าข้าราชการตำรวจและมวลสมาชิกสหกรณ์ฯย่อมรู้ดีว่าผมจะกระทำความผิดหรือไม่ และผมก็ไม่เคยมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อผมตกเป็นผู้ต้องในในคดีทุจริตสหกรณ์ฯ จึงทำให้สภาพจิตใจหดหู่พอสมควร อย่างไรก็ตามผมจะเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันทำการวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 นี้ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมต่อไป และผมอยากพบกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาในระดับสูง เพื่อขอให้รายละเอียดการทุจริตสหกรณ์ฯได้รับทราบ” พ.ต.อ.ชำนาญกล่าวย้ำ
พ.ต.อ.ชำนาญ ฯ ยังเผยอีกว่า การทำหน้าที่ประธานสหกรณ์ฯ 4 สมัย เป็นเวลา 7 ปีนั้น ตนได้สร้างคุณูปการให้กับสหกรณ์ฯไว้หลายอย่างที่สามารถตรวจสอบได้ ตนรู้ดีว่าในการดำเนินการในด้านต่างๆนั้น ตนมีส่วนรู้เห็นในการทุจริตสหกรณ์ หากมีโอกาสได้พบผู้บังคับบัญชาในระดับสูงก็จะได้นำเรียนในเรื่องต่างๆของภายในสหกรณ์ฯที่ตนได้ประสบและดำเนินการมาให้ได้รับทราบ สำหรับในส่วนที่ตนตกเป็นผู้ต้องหานั้นก็ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ดูแลด้านความยุติธรรม ส่วนที่ตนเคยเป็นพนักงานสอบสวนมานานกว่า 20 ปี ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแลความยุติธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน จึงมั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมน่าจะสร้างความยุติธรรมให้แก่คนที่บริสุทธิ์ได้ ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.