มทภ.4 ตรึงชายแดนระนอง ป้องกันโควิด-19 ระลอก 2

        ระนอง - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ระนอง ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ คุมเข้มตรึงชายแดนไทย - เมียนมา ด้าน ระนอง - เกาะสอง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการแพร่ระบาดระลอกสองในประเทศเมียนมา ป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองมาแพร่เชื้อ

        จากการที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกสองในประเทศเมียนมา ทางรัฐบาลจึงสั่งให้มีการเข้มงวดกวดขันตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยเมื่อวันที่ 28 ส.ค 2563 เวลา 17.00 น. พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่บ้านหินช้าง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผบ.ฉก.ร 25 กำลังทหาร ตชด. อส. และฝ่ายปกครอง บูรณาการกำลังตรึงเข้มแนวชายแดนจังหวัดระนอง-เกาะสอง ประเทศเมียนมา เพื่อกำชับการป้องกันการลักลอบเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ หลังจากมีการแพร่ระบาด โควิด-19 รอบ 2 ในประเทศเมียนมาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

        พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเมียนมาในระยะนี้ จึงได้ลงมากำชับกำลังพลในการเฝ้าระวังแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเดินทางเข้าออกประเทศ โดยเฉพาะระนองมีแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านกว่า 200 กม. จึงได้นำยุทธวิธีทางชายแดนภาคใต้มาปรับใช้กับระนอง ในการตรึงกำลังตามแนวชายแดน โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเครื่องมือสำคัญ ในการเฝ้าระวังและสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดระนองสามารถปกป้องพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จึงมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่

        ด้าน นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราช การจังหวัดระนอง กล่าวว่า ได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติให้กับทุกฝ่ายในการเฝ้าระวังการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนกำลังหลัก และหากพบหน่วยงานอื่นเข้ามาจับกุมการลักลอบในพื้นที่ จะถูกพิจารณาลงโทษ และขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสให้กับทางราชการอีกทางหนึ่งด้วย.