มท.2 นำคณะช่วยผู้ประสบอุทกภัย จ.นราธิวาส

        เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 เวลา 13.30 น. ที่จุดอพยพผู้ประสบภัย (โรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก) จ.นราธิวาส นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยมี นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่

        นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการติดตามสถานการณ์และลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งรัฐบาล โดยรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใย ทั้งนี้ในฐานะที่ตนได้กำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ต้องการลงพื้นที่เพื่อเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานได้เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน โดยสถานการณ์ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนขยายวงกว้างรวม 10 อำเภอ ประกอบด้วย บาเจาะ ยี่งอ สุไหงปาดี เจาะไอร้อง ระแงะ จะแนะ แว้ง สุคิริน รือเสาะ และสุไหงโก-ลก และอำเภอที่ถือว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติมี 3 อำเภอ คือ สุคิริน แว้ง และสุไหงโก-ลก ที่ได้รับอิทธิพลจากมวลน้ำป่าที่สะสมอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลลงมาสมทบ ลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อระบายลงสู่ทะเลด้านอำเภอตากใบต่อไป

        ในเวลา 16.00 น. นายนิพนธ์ รมช.มท.และคณะได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและมอบของผู้ประสบอุทกภัยอีกด้วย

        นายนิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ยืนยันรัฐบาลมีความห่วงใยและไม่ทอดทิ้งประชาชนโดยได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง พร้อมเฝ้าระวังคัดกรองไวรัสโควิด-19 และภัยสุขภาพอื่นๆ ที่เกิดตามมากับน้ำท่วม ด้วย

        หลังจากนั้น เวลา 16.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางไปที่ริมถนนบ้านท่าเรือ หมู่ที่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่จำนวน 200 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งนี้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านท่าเรือตำบลรือเสาะนั้น เกิดจากน้ำในแม่น้ำสายบุรีที่มาจาก อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ และขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งจะไหลไปยังจังหวัดปัตตานีต่อไป.