สงขลา- “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.
มหาดไทย เอาจริง เร่งจัดการน้ำเสียคลองสำโรง นำนายกเทศมนตรีนครสงขลา และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบให้เห็นกับตา ก่อนร่วมถกกับนักวิชาการ หาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
ความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำในคลองสำโรง อ.เมืองสงขลา เน่าเสีย โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย มีความเป็นห่วงได้เรียก ผจก.สำนักงานจัดการน้ำเสียสาขาสงขลา มาหารือพร้อมทั้งให้เร่งวางแผนแก้ปัญหาโดยเร็วและให้ยั่งยืนนั้น เมื่อเช้าวันที่ 7 มิ.ย.2563 นายนิพนธ์ ได้ลงพื้นที่สำรวจแผนที่การไหลเวียนของน้ำตั้งแต่ปากคลองสำโรงทะเลสาบสงขลา จนถึงไหลลงสู่อ่าวไทย เพื่อที่จะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของคลองสำโรง ที่มีปัญหาเรื้อรังมานานหลายยุคหลายสมัย โดยมีนายสมศักดิ์ ตัณติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายพิทยา ชูศรี อดีตกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาคลองสำโรง ดร.พลอยรำไพ แก้วแสงอ่อน นักวิชาการอิสระ สมาชิกสภา อบจ.สงขลา เขตอำเภอเมืองสงขลา รายงานสถานการณ์ของคลองสำโรงให้ทราบ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า คลองสำโรงเส้นนี้เป็นคลองที่เชื่อมต่อระหว่างอ่าวไทย กับทะเลสาบสงขลา เมื่อมีความเจริญมากขึ้น บ้านคนมีมากขึ้นตามมาด้วย ดังนั้นอาจจะมีบางส่วนที่รุกล้ำคลอง จึงมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง รวมถึงปัญหาของการก่อสร้างสะพานจึงมีปัญหาเรื่องตอม่อที่ไปกีดขวางการไหลเวียนของน้ำ ทำให้น้ำนิ่งจนเกิดเป็นน้ำเสีย หรือการทิ้งขยะในคลองสำโรงก็ดี จนทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย ด้วยปัญหาหลายประการ ขณะนี้จึงได้มอบเป็นนโยบายให้ทางองค์การจัดการน้ำเสีย(อจน.) สาขาสงขลา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย และตนเป็นผู้กำกับดูแล ไปทำการศึกษาออกแบบแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ว่าจะมีหนทางอย่างไร ในช่วงแรกถ้าไม่สามารถทำได้ตลอดแนวคลองให้เริ่มทำเป็นช่วงๆ เป็นการศึกษาทางวิชาการ
พร้อมกันนี้นายนิพนธ์ ได้กล่าวถึงคลองอีกเส้นคือคลองวง เป็นคลองที่เชื่อมระหว่าง เทศบาลนครหาดใหญ่กับเทศบาลตำบลพะวง ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ และขณะนี้การย้ายศูนย์ราขการไปอยู่ที่นั่นเริ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นตนมองว่าการวางแผนแม่บทจัดการน้ำเสียจึงมีความสำคัญ
“ที่ผ่านมาได้เรียก อจน.มาวางแนวทางในการศึกษาแผนแม่บท ในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในสองลำคลองนี้อย่างไร เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันดูแลในเรื่องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ปากคลองสำโรงนี้ต่อไปสามารถทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนสงขลาได้ และสามารถที่จะสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ชาวบ้าน สิ่งสำคัญคือชาวประมงออกไปหาปลา แล้วนำมาขายได้ในราคาที่ถูก และยังทำเป็นตลาดแหล่งขายอาหารทะเลสดๆขึ้นใหม่ในเทศบาลนครสงขลาได้อีกทางหนึ่ง" นายนิพนธ์กล่าว.