“ยะลา”ป่วนอีก วันเดียวยอดติดโควิด-19 พุ่ง 59 รายแพร่เชื้อแอฟริกาใต้ถึงภูเก็ต
หมวดหมู่ : ยะลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 20 มิ.ย. 2564, 17:00 น. อ่าน : 2,493ยะลา-จังหวัดยะลายังน่าห่วง พบยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มวันเดียวอีก 59 ราย อ.เมืองฯ สูงสุด 27 ราย ตามด้วยกรงปินัง 15 ราย และบันนังสตา 12 ราย ส่วนใหญ่ติดจากโรงเรียนสอนศาสนา ผวจ.ยะลาต้องสั่งปิดศูนย์ดะวะห์ฯยะลา ป้องกันการแพร่ระบาด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา -2019 (โควิด-19) ยังมีแนวโน้มพุ่งขึ้น วันที่ 20 มิ.ย.สนง.สาธารณสุข จ.ยะลา รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 59 ราย ที่ อ.เมืองยะลา มีจำนวนสูงสุดถึง 27 ราย อ.กรงปินัง 15 รายและ อ.บันนังสตา 12 ราย ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากคลัสเตอร์โรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์มัรกัสยะลา บ้านเปาะยานิ หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ที่นักเรียนเดินทางกลับภูมิลำเนาก่อนหน้านั้นโดยที่ยังไม่ได้ผ่านการคัดกรองหาเชื้อ นายสุชาติ อนันตะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เผยว่า ขณะนี้คลัสเตอร์มัรกัสยะลามีการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปกว่า 12 จังหวัดในภาคใต้ จ. ยะลา 69 ราย จ.ปัตตานี 14 ราย จ.นราธิวาส 13 ราย จ.สงขลา 17 ราย จ.สตูล 37 ราย จ. พัทลุง 4 ราย จ.ตรัง 3 ราย จ.กระบี่ 14 ราย จ.สุราษฎร์ธานี 8 ราย จ.พังงา 5 ราย จ.ภูเก็ต 3 ราย และ จ.นครศรีธรรมราช 3 ราย รวมจำนวน 190 ราย
ทาง สนง.สาธารณสุขจังหวัดยะลาได้เร่ง ประชาสัมพันธ์แจ้งผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวให้แจ้งไปยังครอบครัวนักเรียน ให้นักเรียน บุคคลในครอบครัว และผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด รีบเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ที่ รพ.สต.สนง. สาธารณสุขอำเภอหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยด่วน เพื่อป้องกันและสก้ดยังยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่ให้ลุกลาม และจะต้องให้ข้อมูลความจริงกับเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด ไม่ปกปิดประวัติไทม์ไลน์ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้จำกัดวงการแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว หากพบว่าไม่ไปรายงานตัว หรือมีการปกปิดข้อมูลอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีรายงานจาก Phuket Hotnews ว่า จากกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์นักเรียนจากโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดยะลา เดินทางกลับมาภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 3 คน ทาง สสจ.ภูเก็ต ได้มีการส่งเชื้อไปตรวจที่ กทม.เพื่อหาว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ นั้น ได้มีแพทย์หญิงผู้หนึ่งโพสต์เฟชบุคส่วนตัว ว่า “คลัสเตอร์ที่มาจากโรงเรียนประจำจังหวัดยะลาที่ภูเก็ต เราตรวจพบว่าเป็นสายพันธุ์เบต้าแอฟริกา ทางจังหวัดอื่นได้ตรวจบ้างหรือยังนะ ซึ่งตอนนี้กระจายไปหลายจังหวัดทางภาคใต้ รวมทั้งพังงาเพื่อนบ้านเรา”
รายงานแจ้งต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ทราบว่า สสจ.ภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต.เกาะแก้ว และ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต แล้ว และสำหรับสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เริ่มพบที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) แพร่กระจายไม่เร็วเท่าสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) และสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) แพร่กระจายเร็วกว่า สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ผลลัพธ์คือ เมื่อมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ชุมชน จะยากต่อการควบคุมมากกว่า
จากกรณีดังกล่าว นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา/ผกก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.ยะลา จึงได้ออกคำสั่งที่ 111/2564 ลงวันที่ 19 มิ.ย. ควบคุมการแพร่ระบาดในศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย(มัรกัสยะลา)และมัรกัสตาเซะ(เมดานมาดีนาตุลนูร)โดยห้ามนักเรียนกลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆและบุคคลอื่นใดเข้า-ออกพื้นที่ดังกล่าว หากมีความจำเป็นอย่างยิ่งให้ขออนุญาตต่อประธานศูนย์ดะวะห์ แล้วแต่กรณีและต้องรายงานตัวให้ สนง.สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลาทราบ ทั้งนี้ต้องกำหนดเวลาเดินทางออกและกลับพื้นที่ดังกล่าวด้วย คำสั่งระบุด้วยว่า เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีโต้แย้ง หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน พ.อ.ทิม เรือนโต รอง ผอ.สน.
ปรมน.จว.มทบ.46/รอง ผอ.รมน.จ.ย.ล(ท.) นำนโยบาย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผอ.รมน.ภาค 4 ในการป้องกันผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สั่งการให้ พ.อ.อธิภัทร พูลสมบัติ รอง หน.ฝ่ายการข่าวฯ ร่วมกับ ตม.จว.ยะลา โดย ร.ต.อ.เอกสิทธิ์ ลักษณาวงศ์ รอง สวฯ พร้อม ชุดสืบสวน ตม.จว.ยะลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบของเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำด่านความมั่นคงและด่านตรวจคัดกรองโควิค-19 ที่ด่านคัดกรอง ขุนไวย์ และตรวจเยี่ยม ด่านความมั่นคงมลายูบางกอก ต.สะเตง อ.เมืองยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์ตามจุดตรวจคัดกรองต่างๆ ตามประกาศ ศบค.ยะลา ถึงมาตรการเข้มในการเดินทางเข้า-ออก พื้นที่ของจังหวัดยะลา อีกทั้งติดตามปัญหาข้อขัดข้องในการเดินทางเข้าออกของแรงงานต่างด้าวในการปฏิบัติงานประจำวันของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อป้องกันผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย.