รวบแรงงานเมียน 26 คน ลักลอบหนีเข้าชายแดน จ.ระนอง นายหน้ามารอรับ

หมวดหมู่ : ชุมพร, ทั่วไป,

อ่าน : 861
ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังสกัดจับแรงงานเถื่อนสัญชาติเมียนมา จับชาวต่างด้าว
รวบแรงงานเมียน 26 คน ลักลอบหนีเข้าชายแดน จ.ระนอง นายหน้ามารอรับ

ชุมพร-ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สนธิกำลังสกัดจับแรงงานเถื่อนสัญชาติเมียนมาได้ 26 คน พร้อมคนไทย 1 คน เดินลัดเลาะจากช่ยแดน จ.ระนอง มาเข้า จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ซุ่มสกัดจับไว้ได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 เวลา 13.30 น.นายลิขิต สุขเยาว์ ป้องกันจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยร.ต.อ.สมควร พิมพ์ทอง รอง สว.สืบสวน สภ.ท่าแซะ ร.ต.อ.ภินันท์ สมเขาใหญ่รอง สวป.สภ.ท่าแซะ ร.อ.ชาญณรงค์ทองแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าว กอ.รมน.ช.พ. ร.อ.กอบศักดิ์ นาคหาญ หัวหน้า ชรต. 4103  และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จ.ชุมพรที่ 1  ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 26 คน เป็นชาย 9 คน และหญิง 17 คน พร้อมคนไทยอีก 1 คน  มายังกองร้อย ตชด.414 (ยายไท) อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อทำการคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 และกักกันตัวเป้นเวลา 10 วัน ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

                

การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มสกัดจับชาวต่างด้าวทั้งหมดกำลังเดินลัดเลอะมาตามแนวเชิงเขากลางสวนยาง เขตรอยต่อระหว่าง หมู่ที่ 6 ตำบล จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง กับหมู่ที่ 17 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  ใกล้กับแนวชายแดนไทย-เมียนมา  เป็นชาวเมียนจำนวน 26 คน และจับผู้ต้องสงสัยเป็นคนไทยที่เป็นผู้นำพาได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมโชค รัศมี อายุ 63 ปี                


จากการสอบถามนายปิงทัย อายุ 39 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาไทยได้คล่องและเคยเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย ได้เล่าให้ฟังว่าตนเองและชาวเมียนมาที่หลบหนีมานั้นได้รวมตัวกันที่ฝั่งพม่าก่อนเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่จะนั่งเรือข้ามมาฝั่งไทย โดยมีขั้นตอนในการเดินทาง การติดต่อประสานงาน จุดรับส่งรถที่จะมารับ คนนำทางที่จะพาเดินหลบด่าน รวมไปถึงค่าหัวของแต่ละคนนั้นก็จะมีนายหน้าคนไทยเป็นผู้ติดต่อไปยังนายหน้าชาวเมียนมาที่จะเป็นผู้จัดการทั้งหมด โดยค่าใช้จ่ายของแต่ละคนนั้นเมื่อส่งไปทำงานตามสถานประกอบการ แล้วจะต้องไปทำงานใช้หนี้ตามค่าหัวแต่ละคนด้วย จนกว่าจะครบตามจำนวน การเดินทางมาจากพม่าใช้เรือ 2 ลำในการขนคนจำนวน 26 คน หลังจากนั้นเรือก็มาส่งยังจุดที่มีรถมารอรับ 


นายปิงทัยกช่าวว่าจุดที่เรือมาส่งนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบริเวณใดเพราะเป็นช่วงเวลากลางคืนมืดมากไม่สามารถมองเห็น เมื่อเรือมาส่งก็จะมีรถกระบะ 2 คัน เป็นรถกระบะ 4 ประตูสีดำ 1 คัน และรถกระบะยกสูง 1 คัน หลังจากที่ขึ้นรถมาใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงจุดที่ต้องเดินเท้าเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจบนถนนโดยมีคนไทยจำนวน 3 คนมายืนรอรับ ใช้เวลาเดินทางประมาณกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อเข้ามายังพื้นที่ จ.ชุมพร และจะมีรถมารับพาไปส่งยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน


ด้าน นายสมโชค รัศมี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 495 หมู่ 17 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ให้การโดยอ้างว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ กับขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมแรงงานชาวเมียนมานั้นบังเอิญตนเองกำลังเดินเท้ากลับจากไปกรีดยางพอดี และตนเองได้ยินเสียงปืนดังด้วยความตกใจจึงได้กระโดดหลบหมอบลงกับพื้นดิน จนมารู้อีกที่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาใกล้และเปิดไฟแสงสว่าง ตนเองก็ลุกขึ้นมา และก็เห็นว่ามีแรงงานชาวเมียนมา หลายคนก็หมอบอยู่ห่างตนเองไม่กี่เมตร


อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงได้ควบคุมตัวนายสมโชคไว้ก่อน หลังจากผ่านการคัดกรองกักตัวเป็นเวลา 10 วัน ก็จะได้นำตัวนายสมโชค พร้อมชาวต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :