ระแวงเมียนอกใจใช้ค้อนทุบศรีษะดับ เอาศพฝังในสวนหลังบ้าน

ยะลา-บุตรชายตามหามารดาหายไปหลายวัน บิดาอ้างส่งขึ้นรถไปทอดกฐิน แต่มีพิรุธชอบไปนั่งหลังบ้านผิดปกติ จึงแจ้งตำรวจไปตรวจสอบและนำบิดาไปสอบปากคำ จนยอมรับสารภาพว่าทะเลาะกัน เพราะระแวงว่านอกใจ ใช้ฆ้อนทุบศีรษะเสียชีวิต ก่อนนำศพไปฝังไว้ที่สวนหลังบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.พัฒนา แก่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.ตาเซะอ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งพบศพถูกฝังในสวนผลไม้หลังบ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 1 บ้านยุโป ต.ยุโป จึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.อรรถพล กุลวงษ์มาณะโส สวญ. จนท.ศูนย์พิศูจน์หลักฐาน 10 ยะลา  รุดไปตรวจสอบ พบ จนท.กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลาและญาติผู้เสียชีวิตใช้รถแบ็คโฮขนาดเล็ก ตักขุดนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาวางบนพื้น ทราบชื่อนางอาภรณ์อินทรสกุล อายุ 55 ปี พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว สวมเสื้อสีน้ำตาล นุ่งผ้าถุง พบที่ศีรษะมีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็งสภาพศพพองส่งกลิ่นเสียชีวิตมาราว 1 สัปดาห์

จาการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเช้าวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา มีนายเฉลิมพล อินทรสกุล อายุ 28 ปี บุตรชายนางอาภรณ์ ผู้ตาย เข้าแจ้ง ร.ต.อ.พัฒนา แก่นแก้ว พงส.ว่า นางอาภรณ์ มารดาได้หายไปจากบ้านราววันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสมคิด สามี ซึ่งเป็นบิดานายเฉลิมพลได้บอกกับนายเฉลิมพลว่า นางอาภรณ์ เดินทางไปทอดกฐินที่จ.สุราษฎร์ธานี ภูมิลำเนา โดยตนเองพาไปส่งขึ้นรถตอนเย็นวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา และนายสมคิดยังบอกว่า ครั้งหลังสุดนางอาภรณ์ได้โทรศัพท์ติดต่อมาว่าอยู่ จ.กระบี่ เมื่อนายเฉลิมพลขอเบอร์เพื่อติดต่อกลับ นายสมคิดบอกว่าลบเบอร์ไปแล้วและมีท่าทีพิรุธ  

หลังจากนั้นนายเฉลิมพลกับญาติ ๆ ได้ออกค้นหามาโดยตลอดแต่ไม่พบ และได้เกิดเอะใจ เมื่อไปพบนายสมคิดมักจะไปนั่งอยู่บริเวณหลังบ้านใกล้ที่เกิดเหตุตลอดเวลา และสังเกตว่าจุดนั้นมีกิ่งไม้ปกปิดร่องรอย เมื่อถามนายสมคิดจะพูดจาวกวนน่าสงสัย จึงได้เข้าพบ ร.ต.อ.พัฒนา และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามวันเวลาที่นายสมคิดอ้างว่าไปส่งนางอาภรณ์ แต่ไม่ปรากฏ 

ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายสมคิดไปสอบปากคำ และนายสมคิดยอมรับสารภาพว่า มีปากเสียงทะเลาะกับนางอาภรณ์เรื่องส่วนตัวและคิดว่านางอาภรณ์ไปมีแฟนใหม่ เพราะตีตัวออกห่างและไม่ได้หลับนอนกันมาร่วม 2 ปี เมื่อมีปากเสียงทะเลาะกันวันเกิดเหตุ จึงได้ใช้ค้อนทุบศีรษะนางอาภรณ์จนหมดสติเสียชีวิตแล้วนำร่างไปฝังในสวนผลไม้หลังบ้านที่ห่างไปราว 20 เมตร จนนายเฉลิมพลกับญาติไปตรวจสอบพบศพนางอาภรณ์มารดาในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและอำพรางศพ ควบคุมตัวไว้ดำเนินการต่อไป.