ลุยแล้ว “กำนันดัง” รื้อเสาไฟฟ้ารุกเข้าที่ดินสาธารณประโยชน์พัทลุง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 28 พ.ค. 2563, 17:27 น. อ่าน : 1,869 กำนันคนดังเดินหน้ารื้อถอนเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าที่เดินเข้าสู่พื้นที่บุกรุก
ส่วนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เสนอให้นำภาพถ่ายทางอากาศมาใช้ในการสำรวจพื้นที่ที่ถูกบุกรุก
จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน
“ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์” จำนวน 3,727 ไร่เศษ
ซึ่งอยู่ในความดูแลของฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทย เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนมีชาวบ้านร้องเรียนไปยัง
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4
ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ทราบเรื่องจึงไปตรวจสอบและได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง
ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น
เร่งสำรวจพบผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งอยู่ที่อยู่นอกเหนือบัญชีผู้ยากจน ยากไร้ จำนวน 397 ครัวเรือน
ที่ขอเข้าร่วมโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจน จะต้องออกนอกพื้นที่โดยทันที
ขณะที่ นายสุพัฒน์ มุลเมฆ อดีตกำนัน ต.ชัยบุรี และอดีตนายก อบต.ชัยบุรี ปัจจุบันเป็นผู้ทรงคุณวุฒิการกีฬาแห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอใช้ที่ดินดังกล่าวตามโครงการฯ
ได้ประกาศเดินหน้าการสำรวจพื้นที่การบุกรุกให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบที่ดินดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าและพันธุ์พืชรายหนึ่งว่า
หากจะให้การสำรวจการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ในครั้งนี้เป็นไปตามระดับสากล
ทางจังหวัดจะต้องมอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดพัทลุงเข้ามาร่วมด้วย
เนื่องจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายคน อาทิ อัยการจังหวัด ที่ดินจังหวัด
ป่าไม้จังหวัด ฝ่ายความมั่นคง ฯลฯ ซึ่งคนยากจน คนยากไร้ ที่เข้ามาร่วมโครงการดังกล่าวจะต้องไม่มีที่ทำกิน
ไม่มีโฉนดที่ดิน โดยคนที่มีโฉนดที่ดิน เป็นพนักงานของรัฐ ข้าราชการ จะเข้ามาบุกรุกที่ดินดังกล่าวไม่ได้โดยเด็ดขาด
ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายโดยทันที และให้นำคำสั่งของ คสช.
ฉบับที่ 66/2557 ลงวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2557 เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้มาใช้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวมีรายละเอียดที่ชัดเจนว่า การดำเนินการปราบปรามจะต้องไม่กระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ รายได้ต่ำ หรือ ผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก่อนคำสั่งนี้จะประกาศใช้ การดูแลจะต้องไม่ให้มีการบุกรุกป่าไม้เพิ่มเติม ส่วนคดีความที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ให้ดำเนินต่อไป และประการสำคัญในการสำรวจตรวจสอบการบุกรุกเข้าไปสร้างในที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าวนี้ จะต้องทำแผนที่ทางอากาศหรือดาวเทียมในแต่ละปีมาใช้ในการพิจารณาและกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการตรวจสอบที่ชัดเจนด้วย โดยเฉพาะภาพถ่ายทางอากาศ หรือดาวเทียมก่อนและหลังปี 2557 และในปี 2557 ที่ทาง อบต.ชัยบุรี ส่งรายชื่อผู้ยากจน ยากไร้ 397 ราย เข้าร่วมโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจนในพื้นที่ดังกล่าวนั้น จะเป็นหลักฐานที่สำคัญยิ่งและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ภาพถ่ายดังกล่าวนี้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สามารถตรวจยึดเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินที่ผิดกฎหมายคืนมาเป็นของรัฐมากกว่า 15,000 ไร่แล้ว
ทางด้าน นายสุพัฒน์ มุลเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอใช้ที่ดินดังกล่าวตามโครงการดังกล่าวในสมัยเป็นนายก อบต.ชัยบุรี เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยตามข้อเสนอของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้งการนำภาพถ่ายทางอากาศ/ดาวเทียม มาประกอบการบุกรุกพื้นที่ป่าในครั้งนี้ และเห็นด้วยให้ทาง ผวจ.พัทลุง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดพัทลุงเข้ามาร่วมด้วย เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย การให้ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่นมาดำเนินการตรวจสอบการบุก รุกฯ จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำงาน เนื่องจากไม่มีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน ตนไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการบุกรุกทุกๆ แปลงที่อยู่นอกเหนือการถือครองของครอบครัวผู้ยากจน ยากไร้ทั้ง 397 คน ในส่วนของการปักเสาไฟฟ้า และเดินสายไฟฟ้าไปยังที่ดินแปลงดังกล่าวนี้ ตนได้ขุดเสาไฟฟ้าและปลดสายไฟฟ้าแล้วเสร็จทุกรายแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ตนมั่นใจว่าผู้ยากไร้ฯ จะไม่มีใครฝ่าฝืนกฎและกติกา ข้อบังคับ ส่วนนอกเหนือจากกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดพัทลุงจะต้องร่วมกันตรวจสอบกันเอง.