วิสาหกิจชุมชนตรัง เก็บเกี่ยวกัญชาที่นำร่องปลูกแล้ว แต่พิษโควิด-19 ทำราคาลดฮวบ
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ตรัง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 3 ก.ย. 2564, 23:08 น. อ่าน : 1,355ตรัง-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ นำร่องปลูกกัญชาถูกกฎหมายหลังได้รับอนุญาตจาก อย. เก็บผลผลิตลอตแรก ประสบวิกฤตโควิด-19 หนัก ราคาลดลงฮวบ ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวันที่ 3 ก.ย.2564 ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ บ้านหนองห้าง หมู่ 8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง นายศิววงศ์ นวลสุวรรณ ประธานกลุ่มฯ พร้อมด้วย นางกาญจนา สมะพงษ์ ผอ.รพ.สต.น้ำผุด นายเนติวิทย์ ขาวดี อดีตปลัดอาวุโส อ.กันตัง ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทยประจำ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.น้ำผุด และสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ร่วมกันเก็บเกี่ยวผลผลิตจากกัญชา ซึ่งทางกลุ่มปลูกไว้เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา จำนวน 50 ต้น แบบระบบปิดในโรงเรือนมีขนาดความกว้าง 4 เมตร และความยาว 12 เมตร เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา หรือ อย.
นายศิววงศ์ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาเก็บเกี่ยวผลผลิตกัญชาล็อตแรก หลังจากที่ได้ปลูกไปประมาณ 4 เดือน ผลผลิตที่ได้เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง ถือว่าเป็นการศึกษาเรียนรู้ ทดลอง จะได้นำปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านมาไปปรับปรุงในล็อตต่อไป กัญชาที่ปลูกคือ สายพันธุ์หางกระรอกที่ทางกรมแพทย์แผนไทยได้มอบเมล็ดพันธุ์กับทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ บ้านหนองห้าง หมู่ 8 ต.น้ำผุด มีสมาชิกทั้งหมด 15 คน หลังจากที่ทางกลุ่มร่วมกับ รพ.สต.น้ำผุด ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตวันนี้จะได้ประสานไปยังกรมแพทย์แผนไทย ผ่านทางสาธารณสุข จ.ตรัง มารับซื้อผลผลิตเพื่อข้าสู่กระบวนการแปรรูปสู่น้ำมันกัญชาต่อไป
ส่วนราคาในตลาดซื้อขายตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาที่เป็นมาตรฐาน จากเดิมก่อนหน้านี้ราคาหลักหมื่นปลายๆ แต่ตอนนี้ราคาลดฮวบเหลือหลักพันต่อ 1 กิโลกรัม ซึ่งตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด ในส่วนของช่อดอกหัว หรือ (กะหรี่) และเมล็ด ทางองค์กรเภสัชกรรม จะรับซื้อไปผลิตเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันกัญชา และเป็นยารักษาโรคแพทย์ทางเลือก ในส่วนที่ทางกลุ่มสามารถนำไปจำหน่ายได้ คือ ต้น ใบ ราก กิ่งก้าน แต่ตอนนี้ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดผู้บริโภคลดน้อยลง ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ลูกค้าที่สั่งจองไว้ก่อนหน้าโทร.ยกเลิกออเดอร์ เนื่องจากไม่มีรายได้ที่จะซื้อกัญชาไปประกอบการอาหาร หรือแปรรูปต่างๆ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจึงต้องหยุดชะงักไป และหากผู้ที่สนใจปลูกกัญชานั้นต้องศึกษาขั้นตอนระเบียบอีกเยอะเพราะกัญชาถูกกฎหมายถือเป็นเรื่องใหม่
ด้าน นายเนติวิทย์ กล่าวด้วยว่า จ.ตรัง บ้านเราได้รับการอนุญาตให้ปลูกจาก อย. จำนวน 4 แปลง ซึ่งขณะนี้ทั้ง 10 อำเภอ กำลังดำเนินการขออนุญาตอยู่ สำหรับคนที่สนใจปลูกสิ่งแรกที่ต้องทำคือการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนก่อน และยื่นเรื่องขออนุญาตไปยังสาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการจะมาตรวจและส่งเรื่องไปยัง อย.และอนุมัติต่อไป สรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคที่สำคัญ 4 โรค เช่น มะเร็ง สมองเสื่อม ขณะนี้กัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ หากใครสนใจจะปลูกต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย อนาคตตนมองว่ากัญชายังสามารถเติบโตได้อยู่ เพราะนอกจากนำไปแปรรูปประกอบอาหาร น้ำดื่ม แล้ว ที่สำคัญเราต้องใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งปัจจุบันกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เตรียมขยายการให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ตั้งเป้าโรงพยาบาลของรัฐ ครอบคลุมผู้ป่วยเข้าถึงบริการทั่วประเทศกว่า 650 แห่ง.