ว่าที่ประธานสหกรณ์ ตร.พัทลุง คนใหม่ วอนสมาชิกรับรองงบฯ เพื่อเร่งฟื้นฟู
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 ก.ย. 2565, 13:00 น. อ่าน : 699
พัทลุง-ว่าที่ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ตำรวจพัทลุง จำกัด คนใหม่ วอนสมาชิกผ่านการรับรองงบการเงินประจำปี 2564 เพื่อนำไปสู่การทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์ฯโดยเร่งด่วน
คดีมหากาพย์ที่ทำเป็นขบวนการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินกว่า 1,500 ล้านบาทโดยมีการการจับกุมผู้ต้องหา 27 ราย และสามารถยึดทรัพย์สินได้เป็นมูลค่ารวมกัน 694,441,500 บาท ด้านพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมสำนวนการสอบสวน เอกสาร หลักฐานต่างๆ มากกว่า 120 แฟ้มขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมยื่นฟ้องทางคดีอาญากับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 25 ราย ส่วนโจทก์ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายตำรวจยศพลตำรวจตรีรายหนึ่ง ได้ขอถอนฟ้องคดีแพ่งต่อสหกรณ์ตำรวจพัทลุง จำกัด กับพวกรวม 24 คน ต่อศาลจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ในขณะที่ช่วงระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2565 ศาลจังหวัดพัทลุงได้นัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย ตามที่อดีต ผกก.รายหนึ่งยื่นฟ้องแพ่งต่อสหกรณ์ฯ เพื่อขอรับเงินค่าหุ้น จำนวน 3.9 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับคดีนี้ พ.ต.ท.หญิง สิรตา เประนาม สว.อำนวยการ สภ.เมืองพัทลุง ที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการสหกรณ์ฯคนใหม่ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า อดีต ผกก.คนดังกล่าวได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ฯเพื่อขอค่าหุ้นคืน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งตามข้อบังคับและระเบียบการขอถอนหุ้นคืนนั้นจะต้องให้มีการรับรองงบการเงินของสหกรณ์ฯเสร็จสิ้นไปก่อนว่าการดำเนินงานได้กำไรหรือขาดทุน หากขาดทุนก็จะถอนหุ้นไม่ได้ ในขณะนี้การปิดงบดุลทางบัญชีในปี 2564 ก็ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของสมาชิกสหกรณ์ฯแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าเงินค่าหุ้นของสหกรณ์ฯจะเหลือเท่าไร ทางสหกรณ์ฯจึงไม่สามารถจ่ายค่าหุ้นให้กับอดีต ผกก.คนดังกล่าวได้ แต่หากว่าอดีต ผกก.ดังกล่าวถอนฟ้อง ทางคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ ก็จะนำการลาออกของท่านมาทบทวน และขอคำปรึกษาไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกภาพของท่านยังอยู่เหมือนเดิม
พ.ต.ท.หญิง สิรตา เผยอีกว่า สิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการในขณะนี้เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงของสหกรณ์ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่งนั้น คือ สมาชิกสหกรณ์ฯจะต้องรับรองงบการเงินของสหกรณ์ฯเพื่อนำไปสู่การดำเนินงานแผนฟื้นฟู การนำทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาที่ยึดมาได้ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินเข้าสู่สหกรณ์ฯโดยเร็วที่สุด หากสมาชิกรับรองงบการเงินของสหกรณ์ ทางชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยก็พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้เพื่อนำมาสู่การเสริมสภาพคล่องภายในสหกรณ์ฯในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทเศษเท่านั้น ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้สมาชิกฯได้ร่วมกันรับรองงบการเงินของสหกรณ์ฯ ประจำปี 2564 เพื่อนำไปสู่แผนฟื้นฟูต่อไป ตนมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันความมั่นคงของสหกรณ์ฯก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.
