ศูนย์พลังงานอาเซียน ชูโครงการพลังงานทดแทนของซีพีเอฟ คว้ารางวัล “ASEAN Energy Awards 2022”
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 20 ก.ย. 2565, 13:08 น. อ่าน : 1,019กรุงเทพฯ - ศูนย์พลังงานอาเซียน (ASEAN Centre for Energy: ACE) มอบรางวัล “ASEAN Energy Awards 2022” แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในการประชุมด้านพลังงานแห่งอาเซียน ASEAN Energy Business Forum 2022 (AEBF 2022) สะท้อนความมุ่งมั่น ด้านการอนุรักษ์และพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เน้นกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของบุคลากร เพื่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมที่ยั่งยืน
นายสมคิด วรรณลุกขี
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า “โครงการก๊าซชีวภาพจากมูลไก่สู่พลังงานทดแทน :
ฟาร์มจักราชและฟาร์มโพธิ์ประทับช้าง ของกลุ่มธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ” ได้รับรางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า
(Off-Grid)
จากการประกวด Thailand Energy Awards 2022
จัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน นอกจากนี้ พพ.
คัดเลือก “โครงการก๊าซชีวภาพจากมูลไก่สู่พลังงานทดแทน : ฟาร์มจักราช” ให้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดในระดับอาเซียน
จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง “ASEAN Energy Awards 2022”
ในการประชุมด้านพลังงานและการแสดงนิทรรศการพลังงานที่สำคัญแห่งอาเซียน (AEBF
2022) จัดโดยศูนย์พลังงานอาเซียน (ACE) และในปีนี้
กระทรวงอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการพลังงาน ของประเทศกัมพูชา
เป็นเจ้าภาพจัดงานในรูปแบบ LIVE&ONLINE ที่จัดคู่ขนานกับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนพลังงาน
ASEAN Ministers on Energy Meeting (AMEM) ครั้งที่ 40
ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน ณ ประเทศกัมพูชา โดยมี 10
รัฐมนตรีอาเซียนร่วมการประชุม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของอาเซียน
“ASEAN
Energy Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ซีพีเอฟได้รับ
สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน
ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในด้านการอนุรักษ์และพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง
มุ่งเน้นการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของบุคลากรในทุกระดับ
โดยธุรกิจไก่ไข่เน้นใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนากระบวนการผลิต
ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์ม ด้วยแนวคิดการจัดการฟาร์มที่ดีสู่ Zero
Waste to Landfill มุ่งสู่การผลิตพลังงานหมุนเวียนและใช้พลังงานหมุนเวียน
100% (Renewable Energy 100)
สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ที่จะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030” นายสมคิด กล่าว
สำหรับโครงการก๊าซชีวภาพจากมูลไก่สู่พลังงานทดแทน เป็นการนำของเสียกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มีความโดดเด่นที่สามารถนำมูลไก่จากกระบวนการเลี้ยงไก่ไข่ มาใช้ประโยชน์ในการสร้างพลังงานทดแทน ด้วย Biogas หรือระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อหมักไร้อากาศ (Anaerobic Covered Lagoon) จากกระบวนการหมักเปลี่ยนน้ำเสียเป็นก๊าซชีวภาพ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่สามารถนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม ช่วยลดต้นทุนด้านไฟฟ้าถึง 65-85% และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ ส่วนกากไบโอแก๊สหลังกระบวนการหมักและบำบัด การแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับสภาพดินก่อนปลูกพืชหรือทำนา ส่วนน้ำหลังการบำบัด ซึ่งเป็นน้ำปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช นำมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งรดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนน ทดแทนการใช้น้ำประปา และเกษตรกรใกล้เคียงนำไปใช้รดต้นพืช ช่วยให้การเจริญเติบโตดี มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมีได้
ผลจากการดำเนินโครงการฯ ของฟาร์มจักราชและฟาร์มโพธิ์ประทับช้าง ในระยะเวลา 2 ปี สามารถผลิตเป็น Biogas ได้ 6,092,121 ลบ.ม. นำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า 7,259,006 kWh ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐได้สูงถึง 29 ล้านบาทต่อปี เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้ 5,273 TCO2ต่อปี จากความสำเร็จของโครงการฯ นำไปสู่การเป็นฟาร์มต้นแบบในการจัดการการผลิต Biogas จากมูลไก่ กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษากระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป.