สงขลา ฉลองเสาหลักเมือง ครบรอบ 179 ปี
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 15 มี.ค. 2564, 19:44 น. อ่าน : 942 นายนิพนธ์
บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในพิธีสมโภชเสาหลักเมืองสงขลาครบ 179 ปี โดยมี
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางกัญจนา เกลี้ยงเกลา
ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนชาวสงขลา
เข้าร่วม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่
บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถ.นางงาม อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม
2564
สำหรับความเป็นมาของเสาหลักเมืองสงขลา
จากการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่า เมืองสงขลาย้ายสถานที่ตั้งเมืองมาแล้ว 3
ครั้ง โดยเริ่มจากเมืองสงขลาฝั่งหัวเขาแดง
ซึ่งปรากฎหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายแห่ง
แต่บ้านเมืองถูกทำลายจากภัยสงครามจนหมดสิ้น จึงย้ายเมืองมาตั้งที่ฝั่งแหลมสน
แต่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และลักษณะภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ลาดชัน
ไม่มีพื้นที่ราบเพียงพอในการขยายเมือง
จึงย้ายเมืองอีกครั้งหนึ่งโดยข้ามทะเลมาอยู่ที่ฝั่งบ่อยาง
ซึ่งเป็นเมืองสงขลาในปัจจุบัน โดยในสมัยรัชกาลที่ 3
และในประชุมพงศาวตารได้ระบุความตอนหนึ่งว่า “ครั้น ณ วันเดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ
เวลาเช้าเก้าโมง 1 กับ 10 นาที ได้ฤกษ์ พระยาสงขลา (เถี้ยนเส้ง) กับ
พระครูอัษฎาจารย์พราหมณ์ได้เชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังไว้ที่กลางเมืองสงขลา
เป็นเสาหลักเมืองมีปรากฎอยู่จนทุกวันนี้” ซึ่งตามปฏิทินสุริยคติตรงกับวันที่ 10
มีนาคม พ.ศ.2385 หรือเมื่อ 179 ปีมาแล้ว และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประเพณี
วัฒนธรรม ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลา
รวมทั้งการตั้งถิ่นฐานของเมืองสงขลาในอดีต
จึงเห็นควรกำหนดให้วันที่
10 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันสงขลา” เพื่อระลึกถึงการสถาปนาเมืองสงขลาในยุคปัจจุบัน
แม้ความจริงจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีแล้วก็ตาม
เพื่อให้ผู้ที่อาศัยบนแผ่นดินนี้ ทั้งที่เป็นถิ่นกำเนิด พักพิง
และประกอบอาชีพอยู่ทุกหนแห่งในปัจจุบันได้ตระหนัก มีจิตสำนึก
และนำมาซึ่งการรวมพลังสร้างความรัก ความสามัคคี ดำเนินกิจกรรมร่วมกันเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินสืบไป
นอกจากนี้ภายในศาลหลักเมืองสงขลายังมีองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องรักษาเมืองให้พ้นภัยพิบัติต่างๆ
และเป็นที่เคารพสักการะ มีองค์เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยงฮ๋องเหล่าเอี๋ย
เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา พระเสื้อเมือง โบ้เชงไต่เต่ พระหมอรักษา ตี่ฮู่อ๋องเอี๋ย
เทพเจ้ารักษาโรค และเฉ่งจุ้ยจ้อ พระหมอเทพรักษาโรคภัยของชาวสงขลา
ทั้งนี้กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนศาลหลักเมืองเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 25
กุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 และในทุกวันที่ 10 มีนาคมจะมีการจัดสมโภชเป็นประจำทุกปีอีกด้วย.