สนง.เจ้าท่าปัตตานี ยึดเรือประมงขนน้ำมันเถื่อน ขณะนำมาซ่อม

หมวดหมู่ : ปัตตานี, ทั่วไป,

อ่าน : 797
น้ำมันเถื่อน เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เรือขนน้ำมันเถื่อน
สนง.เจ้าท่าปัตตานี ยึดเรือประมงขนน้ำมันเถื่อน ขณะนำมาซ่อม

ปัตตานี-เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่ายึดเรือขนน้ำมันเถื่อนขณะนำมาซ่อมแซม และตามหาน้ำมันเถื่อน 3,000 ลิตร ที่ถูกถ่ายไป เร่งสอบขยายผลกวาดล้างผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 6 พ.ค.2565) ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี มอบหมายให้นายอารีฟ สารอเอ็ง เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ พร้อมด้วย เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน เจ้าพนักงานตรวจเรือปฎิบัติการณ์ ลงพื้นที่ประสานงานบูรณาการร่วมกับ สรรพสามิตปัตตานี  ตำรวจน้ำ ได้เข้าตรวจเรือต้องสงสัย ชื่อช.เพชรรุ่งโรจน์ หมายเลขทะเบียน 258027228 ขนาด 39.46 ตันกรอส โดยกำลังนำขึ้นคานเรือเบอร์ 4 เพื่อทำการซ่อม จากผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่ามีการดัดแปลงตัวเรือจากเรือบรรทุกสินค้าทั่วไปเป็นเรือบรรทุกน้ำมันจึงทำการยึดเรือชั่วคราว พร้อมทำการตรวจสอบนำน้ำมันไปตรวจสอบว่าเป็นน้ำมันชนิดใด ซึ่งก่อนที่เรือจะเข้ามาซ่อมแซมก็ได้รับแจ้งว่าในเรือมีน้ำมันเถื่อนอยู่ 3,000ลิตร ซึ่งต้องทำการขยายผลต่อว่าน้ำมันที่หายไป 3,000 ลิตร นำไปขายให้ใคร


ล่าสุด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีต่อเรือลำดังกล่าว โดยเรือ ช.เพชรรุ่งโรจน์ ได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยและพระราชบัญญัติเรือไทยซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 41,000 บาท พร้อมนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือดังกล่าวอาศัยตามมาตรา 170 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2546 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2535 จนกว่าเจ้าของเรือหรือผู้ครอบครองเรือดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซมให้เรียบร้อยมีสภาพที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนใช้เรือลำดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายต่อการเดินเรือในน่านน้ำไทยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล


นายอารีฟ สารอเอ็ง เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีเรือชื่อ ช.เพชรรุ่งโรจน์ ได้เข้ามาซ่อมแซมเรือ จึงทำการตรวจสอบในบัญชีจึงทราบว่าเรือลำนี้ เป็นเรือที่ กรมเจ้าท่าได้ติดตามอยู่แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสายรายงานว่าเรือดังกล่าวอาจจะมีการดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน จึงทำการตรวจสอบทันที ปรากฏว่ามีน้ำมันสำหรับใช้กับเรือเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ทราบที่มาที่ไปของน้ำมัน อีกทั้งยังพบเรือมีการดัดแปลกเรือ โดยมีช่องที่อยู่กลางเรือจำนวน 6 ช่อง มีคลาบน้ำมันอยู่ จึงนำตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบว่าเป็นชนิดใด และหาที่มาที่ไปของน้ำมัน นอกจากนี้ยังพบเครื่องสูบน้ำไดโว่ อีก1ตัว ภายในเรืออีกด้วย หลังจากนี้ก็จะให้มีการขยายผลว่า เรือดังกล่าวไปซื้อน้ำมันมาจากไหน และนำไปขายให้ใครบ้าง หากไม่มีการขยายผลต่อ ก็ยังคงมีการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนกันต่อไม่หยุด


ส่วนการดำเนินคดีกับเรือลำนี้ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ส่วนด้านสำนักงานกรมเจ้าท่าก็สั่งให้งดใช้เรือลำนี้ จนกว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเรือให้กลับมาเป็นสภาพปกติเสียก่อน.