สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง วอนจับคนทุจริต เผยเป็นเงินก้อนสุดท้ายในอนาคต

พัทลุง-ผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตจาก  จ.สงขลา จะเข้ามาตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯตำรวจพัทลุงตั้งแต่วันที่  10 กุมภาพันธ์ 2565  เป็นต้นไป  ด้านสมาชิกสมทบวอนจนท.รัฐเร่งแก้ปัญหาด้วย เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่นำมาฝากไว้เพื่ออนาคต

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข อดีต ผบก.ภ.จว.สตูล และคณะ ได้นำหนังสือร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.หลังพบการทุจริตในสหกรณ์ตำรวจออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ประมาณ 1,697 ล้านบาท และต่อมาพล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิด และนำเงินมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ  ด้านสมาชิกรายหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิดที่กำลังลอยนวล  ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น 

      ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง รายหนึ่งเปิดเผยว่า  การทุจริตของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงที่เห็นได้ชัดเจนน่าจะมีขึ้นก่อนหน้านี้หลายปี  แต่ยังขาดเอกสารและพยานหลักฐานที่ชัดเจน  หลังจากที่คณะกรรมการสหกรณ์ฯมีข้อสงสัยในฝ่ายจัดการว่าน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น  จึงได้มีมติไม่ต่อสัญญาผู้จัดการคนเก่าและได้ว่าจ้างให้ผู้จัดการคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทนในปีบัญชี  2564  หลังจากที่มีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ทางคณะกรรมการจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง  เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ส่วนเอกสาร  หลักฐาน  ข้อมูลการกู้เงิน  ค่าหุ้น  เงินฝากและสินเชื่อในระบบคอมพิวเตอร์ในปี พ.ศ. 2560 – 2561  ที่หายไปนั้น ตนเชื่อว่าทาง จนท.รัฐและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายน่าจะดำเนินการค้นหาให้กลับมาได้  

      ด้านนายสวัสดิ์ อ่อนประชู สหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้จัดส่ง จนท.ผู้ชำนาญงานของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงเข้ามาให้การควบคุม  ดูแล  ระบบการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงอย่างต่อเนื่องแล้วเช่นกัน  ส่วนการตรวจสอบบัญชีจากผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตจาก จ.สงขลานั้น  ได้เข้ามาตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯตำรวจพัทลุงในปี 2564 ไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือน กรกฎาคม 2564 ส่วนครั้งที่ 2 ผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตจากจ.สงขลา จะเข้ามาตรวจสอบบัญชีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565  เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ  หลังจากนั้นทางสหกรณ์ฯจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้ทันที  ขณะที่สหกรณ์ตำรวจฯนั้นยังทำธุรกรรมต่างๆตามปกติ

      ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแม่บ้านตำรวจซึ่งเป็นสมาชิกสมทบของคู่สมรส และบุตร  รายหนึ่ง  เปิดเผยว่า  ตนและเพื่อนๆแม่บ้านตำรวจอีกจำนวนหลายคนที่ได้นำรายได้จากการประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวไปฝากเงินไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง  เพื่อสะสมเงินดังกล่าวเพื่ออนาคตของครอบครัวและบุตรหลังจากที่สามีเกษียณอายุราชการ  เนื่องจากเห็นว่าสหกรณ์ฯตำรวจจะเป็นที่พึ่งพาของครอบครัวตำรวจ โดยไม่ได้เก็บเงินเพื่ออนาคตไว้กับธนาคารใดๆ  เมื่อเกิดปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างแน่นอน  จึงขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วนด้วยก่อนที่ปัญหาทุกอย่างจะสายจนเกินแก้.