สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.ตรัง รุกฮือร้อง รัฐบาลช่วยราคากุ้งตกต่ำ

หมวดหมู่ : ตรัง, ทั่วไป,

อ่าน : 669
สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดตรัง ราคากุ้งตกต่ำ
สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.ตรัง รุกฮือร้อง รัฐบาลช่วยราคากุ้งตกต่ำ

ตรัง-สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดตรัง ประมาณ 100 คน ลุกฮือเดินถือป้ายบุกศาลากลางฯ ยื่นหนังสือเนื่องจากราคากุ้งตกต่ำ ในขณะที่ต้นทุนในการเลี้ยงกุ้งเพิ่มขึ้น ทำให้ประสบปัญหาการขาดทุนได้รับความเดือดร้อนวอนรัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน


เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 เวลา 10.00 น. สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดตรัง ประมาณ 100 คน  นำโดยนายมานิตย์  อินทองปาน ประธานกรรมการสมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.ตรัง  จำกัด ยื่นหนังสือต่อ นายภูวนัฐ  สมใจ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ผ่านไปยังรัฐบาล เพื่อต้องให้รัฐบาลช่วยเร่งแก้ไขปัญหาสัตว์น้ำตกต่ำโดยเฉพาะกุ้ง  ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดตรัง 


นายมานิตย์ กล่าวว่า จ.ตรัง มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล  ประชาชนส่วนมากประกอบอาชีพการเลี้ยงกุ้ง โดยเฉพาะกุ้งขาวแวนนาไม โดยมีผลการผลิต ปี 2565 ประมาณ 20,113  ตันต่อปี ปี 2566 ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน มีผลผลิตประมาณ 5,600 ตัน  และตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมาราคากุ้งตกต่ำเป็นอย่างมาก ทำให้เกษตรกรขายกุ้งขาดทุนประมาณ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม  และยังไม่มีแนวโน้มราคาขยับขึ้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายขจรศักดิ์  เจริญโสภา  ผวจ.ตรัง ให้ช่วยเหลือประสานงานไปยังรัฐบาลและกรมประมง ให้หาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเร่งด่วน 


โดยใช้โครงการเร่งด่วนชดเชยราคากุ้งช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม โดยกำหนดราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยคาดว่ามีผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1,500 ตันต่อเดือน โดยใช้โครงการช่วยเหลือผู้เลี้ยงกุ้งปี 2564 หรือมาตรการอื่นตามความเหมาะสม  โครงการระยะยาวให้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับผู้ผลิตและผู้ค้า จัดหาปัจจัยสินค้าราคาถูก เช่น เคมีภัณฑ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาหารกุ้ง ลดค่าไฟ น้ำมัน ให้แก่เกษตรกร เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต


ด้านนายภูวนัฐ สมใจ  รอง ผวจ.ตรัง ได้ลงมารับหนังสือแทนผู้ว่าฯตรัง และกล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวนำเรียนผู้ว่าฯตรัง และส่งหนังสือความเดือดร้อนไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะกรมประมง เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป.








อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :