สมาชิกสหกรณ์ ตร.พัทลุง จี้ออกหมายจับผู้ต้องหาทุจริตชุดแรก
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 22 เม.ย. 2565, 15:05 น. อ่าน : 1,012พัทลุง-สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เร่งให้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งความไปก่อนหน้านี้ และหากการคลี่คลายคดีไม่โปร่งใสก็จะยื่นหนังสือร้องทุกข์ฯต่อ ผบ.ตร.ทันที
ชาวพัทลุงและประชาชนทั่วไปยังให้ความสนใจ เฝ้าติดตามคดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงจำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งทำเป็นขบวนการ และจะมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในข่ายถูกออกหมายจับประมาณ50 ราย โดยน่าจะมีการออกหมายจับเป็นกลุ่มๆ เหมือนกับคดีรังนกอีแอ่น ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความหน้าว่า จากการที่ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ออกมาเปิดเผยว่าการออกหมายจับผู้ต้องหานั้นน่าจะเป็นกลุ่มๆ เหมือนกับคดีรังนกทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่จะถูกออกหมายจับในกลุ่มแรกนั้น น่าจะเป็นกลุ่มของผู้ต้องหา จำนวน 8 คน ที่ถูกคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองพัทลุงไปก่อนหน้านี้ โดยพบการทุจริตเงินทุจริตเงินสหกรณ์ในปีบัญชี 2563 อย่างชัดเจน ส่วนกลุ่มที่ 2 น่าจะเป็นคณะดำเนินงานสหกรณ์ กลุ่มที่ 3 น่าจะเป็นผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ และ จนท.ส่งเสริมสหกรณ์บางรายที่น่าจะมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด และได้รับผลประโยชน์จากการทุจริตเงินสหกรณ์ฯในครั้งนี้ ซึ่งทางด้านพนักงานสอบสวนของ สตช. , ภ.จว.พัทลุง และ ภาค 9 ได้ขยายผลการสอบปากคำของสมาชิกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มของผู้ต้องสงสัยที่งหมด
ทางด้านสมาชิกสหกรณ์ฯรายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้พนักงานสอบ สวน เร่งออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยในกลุ่มที่ 1 โดยเร็ว เพราะกลุ่มบุคคลในกลุ่มดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการทุจริตในครั้งนี้ บางคนเสวยสุขจากการทุจริตเงินสหกรณ์ฯอย่างสบาย บางรายนำเงินจากการทุจริตไปสร้างทรัพย์สิน นำไปดูแลญาติพี่น้องจนทำให้ญาติพี่น้องมีฐานะที่ดีขึ้น ขณะที่พวกตนต้องมาลำบาก เงินปันผลเฉลี่ยคืนก็ยังไม่ได้รับ และยังกลับมาเป็นหนี้สหกรณ์ฯจากการกู้เงินฯที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยง และมีหลายรายที่ต้องกู้เงินสวัสดิการรายละ 2 แสนบาท เพื่อนำมาจุนเจอครอบครัว และเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน หลังจากที่ไม่ได้รับเงินปันผลและเฉลี่ยคืน
ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวเกี่ยวกับผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีทางอาญาคดีแพ่ง และถูก ป.ป.ง.ยึดทรัพย์หากพบการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ และจะถูกฟ้องล้มละรายหากไม่สามารถชำระเงินคืนให้กับสหกรณ์ฯนั้น ปรากฏว่าข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยไม่คาดคิดว่ากลุ่มผู้ทุจริตจะถูกลงโทษหนักถึงขนาดนี้ ในขณะที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกจับกุมต่างวิ่งกันวุ่นเช่นกัน หลายคนนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาเรื่องดังกล่าวกับทนายความหลังจากที่ทราบความจริงเกือบทุกคนต่างมีใบหน้าซีดเซียวไปตามๆกัน
นอกจากนี้มีสมาชิกฯบางรายได้เข้าพบกับผู้บังคับบัญชาเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ขณะที่หลายฝ่ายต่างก็จับตามองการคลี่คลายในคดีดังกล่าวว่ามีประสิทธิ์ภาพมากน้อยแค่ไหน และสามารถนำกลุ่มผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายเหมือนกับคดีรังนกฯหรือไม่ ในขณะที่สมาชิกสหกรณ์ฯหลายรายออกมาเผยกับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ นสพ.ไทยรัฐ ว่าหากการคลี่คลายคดีไม่โปร่งใสก็จะยื่นหนังสือร้องทุกข์ฯต่อ ผบ.ตร. ทันที ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็ออกมาระบุว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมได้ทุ่งเทกับการคลี่คลายคดีดังกล่าวอย่างสุดความสามารถแล้วเช่นกัน ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.