สว.พัทลุงมั่นใจพื้นที่ที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์ “ จำนวน 3,727 ไร่เศษ ถูกบุกรุกเข้าไปถือครองหมดแล้ว วอน กบร.ตรวจสอบผู้เข้าไปถืออย่างละเอียดรอบคอบด้วยว่า มีนอมินีให้จ้าราชการหรือไม่
จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์ “ จำนวน 3,727 ไร่เศษ เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น เร่งสำรวจผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ต่อมานายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคะทำงานตรวจสอบข้อเท็จกรณีการเข้าไปจับจองถือครองทำประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ตามรายชื่อที่ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันสำรวจ ตรวจสอบ ไปก่อนหน้านี้ ทั้งพื้นที่ ต.ชัยบุรี และ ต.ลำปำ
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ โดยมีกำหนดการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ประชุมสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้นายอำเภอฯ ได้รับทราบภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นดังกล่าวนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่า มีชาวบ้านหมู่ที่ 2,4,5,7 ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง เข้าไปถือครองสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 265 ราย จำนวน 384 แปลง เนื้อที่ 2,076 ไร่เศษ อีกทั้งยังมีคนนอกพื้นที่ที่เป็นชาวตำบลชัยบุรีแต่ไปอยู่นอกพื้นที่ซึ่งได้เข้าไปถือครองในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ จำนวน 53 ราย จำนวน 65 แปลง เนื้อที่ 492 ไร่เศษ ในส่วนของชาวบ้านหมู่ที่ 8,11 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง เข้าไปถือครองสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 72 ราย จำนวน 102 แปลง เนื้อที่ 649 ไร่เศษ นอกจากนี้ยังมีคนนอกพื้นที่ตำบลลำปำแต่ไปอยู่นอกพื้นที่ซึ่งได้เข้าไปถือครองในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ จำนวน 24 ราย จำนวน 28 แปลง เนื้อที่ 210 ไร่ ดังนั้น คนที่เข้าไปบุกรุกสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 414 ราย จำนวน 579 แปลง เนื้อที่ 3,456 ไร่ 3 งาน 61 ตารางวา
ทางด้านนายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุง กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าเนื้อที่ในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 3,727 ไร่เศษนั้น มีคนเข้าไปถือครองเต็มพื้นที่แล้ว และเป็นที่น่าสังเกตว่าคนนอกพื้นที่เข้าไปถือครองในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างไร ตนมั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นคนไม่มีทีทำกิน ตนจึงขอเรียกร้องให้ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันตรวจสอบการถือครองที่ดินดังกล่าวทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่อย่างจริงจังว่าเป็นใคร มาจากไหน ได้ที่ดินมาอย่างไร ตนคิดว่าผู้นำท้องถิ่นน่าจะทราบดี ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ หากผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งคนใดรับองข้อมูลอันเป็นเท็จจะต้องรับผิดชอบการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย และตนก็ยังมั่นใจว่าน่าจะมีชาวบ้านบางรายเข้าไปเป็นนอมินีให้กับข้าราชการบางคนที่เข้าไปถือครองที่ดินดังกล่าวด้วย ตนจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐ(กบร.) ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย หลังจากที่ทางอำเภอเมืองพัทลุงส่งเรื่องการบุกรุกในที่ดินดังกล่าวมาให้พิจารณาตามขั้นตอนต่างๆด้วย.
