สว.สส.สภ.ลำทับ ติดโควิด-19 สั่งกักตัวตำรวจ 19 นาย

        ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อเช้าวันที่ 3 พ.ค.2564 ว่า พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง ผกก.สภ.ลำทับ จ.กระบี่ เปิดเผยว่า มีนายตำรวจของ สภ.ลำทับ ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 นาย คือ พ.ต.ต.โอฬาร ชัยสมาน สว.สส.สภ.ลำทับ โดยก่อนนี้ตนรับรายงานว่า พ.ต.ต.โอฬาร ได้รับแจ้งจากญาติที่บ้านใน จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีญาติติดเชื้อโควิด-19 ทาง พ.ต.ต.โอฬาร จึงขออนุญาตลางานเพื่อไปตรวจหาเชื้อ โดยเจ้าตัวขอไปตรวจเชื้อที่ จ.นครศรีธรรมราช ปรากฎว่าตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ.ใน จ.นครศรีธรรมราช เหตุที่ต้องไปตรวจที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่ตรวจที่ จ.กระบี่ เนื่องจาก พ.ต.ต.โอฬาร มีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีหมอประจำตัวที่รักษาอยู่ก่อนนี้ที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงสะดวกในการดูแลรักษามากกว่า

        ผกก.สภ.ลำทับ กล่าวต่อว่า ในส่วนของ สภ.ลำทับ เช้าวันเดียวกันนี้ ทาง สสจ.กระบี่ ประสานเข้ามาที่ สภ.เพื่อนำกลุ่มตำรวจที่เสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย เข้ารับการกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อรวม 19 ราย จากกลุ่มงานสืบสวนสอบสวน และกลุ่มธุรการ จึงให้ทั้ง 19 นาย เข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ให้แล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการทำความสะอาด สภ.ลำทับ เพื่อฆ่าเชื้อตามมาตรการป้องกันต่อไป.

        ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ วันที่ 3 พ.ค. ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยอยู่ที่ 5-8 ราย ล่าสุด สสจ.กระบี่ แจ้งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจนถึงวันที่ 2 พ.ค. มีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 9 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในการระบาดรอบ 3 เพิ่มเป็นจำนวน 101 คน โดยในจำนวนนี้ 31 ราย รับการรักษาจนหายดีสามารถกลับบ้านได้แล้ว ยังเหลือผู้ป่วยที่รับการรักษาอยู่ใน รพ.ต่างๆ จำนวน 70 คน โดยพื้นที่แพร่ระบาดหนักสุดของ จ.กระบี่ คือ อ.เมืองกระบี่ พบผู้ป่วยสูงสุดที่ 68 ราย

        ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กระบี่ ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 บ้านช่องพลี ต.อ่าวนาง และหมู่ 4 บ้านน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ให้เพิ่มความระมัดระวัง และปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด หลังพบว่า 2 พื้นที่ดังกล่าว มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายราย โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านช่องพลี พบติดเชื้อในวันเดียว 9 ราย ทำให้ชุดปฏิบัติการตรวจเชิงรุก และทีมสอบสวนโรค ต้องเข้าพื้นที่ทำการเก็บประวัติ และตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย กว่า 300 ราย และประกาศให้ 2 พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดของ จ.กระบี่

        ขณะที่ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตัวตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด โดยกระบี่จะยึดมาตรการของ ศบค.กลางเป็นหลัก ส่วนจะเพิ่มระดับการควบคุมหรือไม่ จะต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการโรคติคต่อ จ.กระบี่ อีกครั้ง.