สารภาพแล้วหลายราย คดีทุจริตสหกรณ์ ตร.พัทลุง -พงส.กันไว้เป็นพยาน
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 15 เม.ย. 2565, 12:48 น. อ่าน : 1,235พัทลุง-เผยเส้นทางการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เริ่มทุจริตตั้งแต่ปี 2548 มีกลุ่มผู้ต้องหาร่วมขบวนการที่จะถูกดำเนินคดีประมาณ 50 ราย บ้างยอมเปิดปากสารภาพและให้ข้อมูลหลายรายแล้ว ตำรวจกันไว้เป็พยาน ด้าน ป.ป.ง. ลงพื้นที่สืบสวนและดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาต้นเดือนพฤษภาคม นี้
ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ นสพ.ไทยรัฐ รายงานว่า จากกรณีที่มีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัดไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งจากการคลี่คลายคดีของชุดสืบสวนของ สตช. ร่วมกับ ตร.ภ.9 และ ภ.จว.พัทลุง พบว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยการทุจริตประมาณ 80 คน คาดว่าจะออกหมายจับได้หลังเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วน พล.ต.ท.สมเดชขาวขำ ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอให้“Set zero“ โดยให้คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯลาออก เพื่อให้ ผบก.ภ.จว.พัทลุง หรือ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เป็นประธานสหกรณ์ฯแทน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่มวลสมาชิกและสถาบันการเงิน ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ทีมข่าวไทยแหลมทองที่ทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลางรายงานว่า นายปรเมศวร์อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์ แห่งประเทศไทย ได้เป็นประธานในการประชุมหารือในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์ตำรวจ ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เมื่อตอนส่นวันที่ 12 เมษายน 2565 ที่ผ่านมาโดยมีคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ ภ.จว. พัทลุง เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทางด้านปรเมศวร์ ฯ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของการทุจริตในครั้งนี้น่าจะมาจากสาเหตุคณะกรรมการฯขาดองค์ความรู้ด้านสหกรณ์ จนท.ไม่เข็มแข็งพอ และน่าจะสาเหตุการต่ออายุผู้จัดการจนนำไปสู่การทุจริต จึงเห็นด้วยกับการ “Set zero“ ตามแผนฟื้นฟูกิจการสหกรณ์ฯของหลายๆ ฝ่าย
ด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. มือปราบคดีรังนก กล่าวยืนยันในที่ประชุมว่า หลังจากการขยายผลของการสอบสวนของตำรวจพบว่าความเสียหายของสหกรณ์ฯหลังจากหักลบออกจากรายตบแต่งรายชื่อในบัญชีผีก็จะมีประมาณ 1,450 ล้านบาท โดยเริ่มมีการทุจริตเงินสหกรณ์ฯตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ในส่วนของตบแต่งบัญชีการทุจริตในระบบคอมพิวเคอร์นั้นน่าจะมาจากคำสั่งของอดีตผู้จัดการสหกรณ์ฯ ซึ่งทางตำรวจจะต้องเร่งสรุปความเสียหายให้มาปรากฏในงบการเงินอย่างครบถ้วนและชัดเจน เพื่อนำการเงินไปแสดงต่อศาลจังหวัดพัทลุงว่าสหกรณ์ตำรวจฯมีความเสียหายอย่างไรบ้าง ในส่วนของการทุจริตในครั้งนี้นั้นพนักงานสอบสวนไม่พบหลักฐานการปล่อยเงินกู้ แต่เป็นการปลอมสัญญาเงินกู้ของสมาชิกเพื่อนำเงินออกจากสหกรณ์ไปเฉยๆโดยไม่ยึดหลักการปฏิบัติของระบบสหกรณ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ร่วมกันพิจาณาสำนวนการสอบสวนผู้ต้องสงสัยและสมาชิกสหกรณ์ฯ และได้กันบุคคลบางรายมาเป็นพยานเพื่อประโยชน์ของรูปคดีนั้น ขณะนี้มีกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกออกหมายจับประมาณ 50 ราย เนื่องจากหลายรายที่ปฏิบัติหน้าที่ซ้ำซ้อนกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2548-2564 ซึ่งหมุนเวียนกันมาเป็นคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ และผู้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯ บางรายก็เปิดปากรับสารภาพถึงความประมาท เลินเล่อจนนำไปสู่การทุจริตโดยที่เจ้าตัวไม่มีส่วนร่วมในการทุจริต และหลังจากที่มีการแจ้งข้อหากลุ่มผู้ต้องหาแล้ว ทาง ป.ป.ง.ก็จะลงพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อสืบสวนผู้ต้องหาและดำเนินการยึดทรัพย์สินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งการยึดทรัพย์สินนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูสหกรณ์ฯให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.