“สาวแดนจิงโจ้”เหยื่อแชร์"คุณนายอลิศ 168" ประทับใจ ตร.นครฯ จับผู้ต้องหา-มอบทุนการศึกษาให้บุตร

หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,

อ่าน : 759
เหยื่อแชร์ออนไลน์ "คุณนายอลิศ 168" สาวจิงโจ้ จากแดนไกล
“สาวแดนจิงโจ้”เหยื่อแชร์"คุณนายอลิศ 168" ประทับใจ ตร.นครฯ จับผู้ต้องหา-มอบทุนการศึกษาให้บุตร

นครศรีธรรมราช-เผย “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” เหยื่อแชร์ออนไลน์ "คุณนายอลิศ 168"สุดประทับใจตำรวจเมืองคอนอำนวยความยุติธรรมไม่สนสาวเท้าแชร์เป็นภรรยาบิ๊กตำรวจ-ควักกระเป๋ามอบทุนการศึกษาบุตรตำรวจ 55 ทุน ๆ ละ 4,000 บาทรวมเป็นเงิน 220,000 บาท 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 29 ต.ค. 2564 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกุล ผบก.ภ.จว. นครศรีธรรมราช ได้เป็นประธานการประชุมประจำเดือนตุลาคม 2564 ของ บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ที่หอประชุมขุนพันธรักษ์ราชเดช ภ.จว.นครศรีธรรมราชซึ่งมีข้าราชการตำรวจระดับ ผกก.,สวญ.,สว.หัวหน้าสถานีทั้ง 32 แห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง


ก่อนการประชุมได้มีพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจในจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 55 ทุน จำนวน 55 ทุน ๆ ละ 4,000 บาท รวมเป็นเงินทุนการศึกษาในครั้งนี้จำนวน 220,000 บาท  ซึ่งเป็นทุนการศึกษาของ “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” (ไม่ประสงค์ให้ออกนาม) ชาวไทยที่ไปทำธุรกิจและพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลียมอมหมายให้  พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกุล ผบก.ภ. จว.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.อ.ธีร์ธวัต ธุระกิจ รอง ผบก.ผค.สยศ.ตร. เป็นตัวแทนมอบทุนการศึกษาดังกล่าวให้กับบุตรข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีข้าราชการตำรวจนำบุตรมาเข้ารับการการศึกษาอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางความต่างดีใจ ปลาบปลื้มใจที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ 


สำหรับการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช 55 ทุนในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมามีขบวนการท้าวแชร์ออนไลน์ "คุณนายอลิศ 168" ภรรยาของนายตำรวจใหญ่ หลอกลวงให้เล่นแชร์ผ่านระบบออนไลน์ได้ดอกเบี้ยสูง จนมีประชาชนทั้งในและคนไทยในต่างประเทศตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้าน มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จริญ ขาวเอี่ยม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดย “สาวจิงโจ้ จากแดนไกล” เป็น 1 ในจำนวนผู้เสียหาย ได้เดินทางมาจากประเทศออสเตรเลียและแจ้งความ โดยะระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน สาวจิงโจ้ จากแดนไกลต้องพักอาศัยอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อเนื่องหลายสัปดาห์ โดยได้รับการดูแลอำนวยความสะดวก พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ อดีต ผบก.ภ.จว. นครศรีธรรมราช  พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก. สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.จริญ ขาวเอี่ยม รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้เป็นอย่างดี และดำเนินคดีไปตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา 


จนกระทั่งพนักงานสอบสวนได้จนพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจน จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1. นางอาลิศราพร สุนทรสนิท หรือ “คุณนายอลิศ 168” เท้าแชร์ 2. นางชไมพร วรรณวัลย์ และ 3.นางสาวศิริกาญจน์ แซ่ข่าง (เอี้ยวสุวรรณ)  จนสามารถนำตัวส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมายในวันที่ 17 ก.พ. 2564  ตามที่เป็นข่าวครึกโครมไปแล้วนั้น


พล.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า นักธุรกิจจากแดนไกลรายนี้ เป็นผู้เสียหายมีความประทับใจที่ใด้รับการดูแลเอาใจใส่จากพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี จึงมีความประสงค์ที่จะตอบแทนคุณงามความดีของข้าราชการตำรวจ โดยขอมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการ ตำรวจในสังกัด ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 55 ทุน ๆ ละ 4,000 บาท  รวมเป็นเงินจำนวน 217,000 บาทดังกล่าว ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกนายมุ่งมั่น ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชนทุกระดับให้ได้รับความพึงพอใจหรือประทับใจสูงสุดเหมือนกับกรณีนี้ นอกจากเกิดความภาคภูมิใจแล้วยังช่วยสร้างความมั่นใจ ประทับใจให้กับประชาชนผู้มาใช้บริการ และยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการตำรวจอีกด้วย 


ทางด้าน “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” เจ้าของทุนเผยเผยผ่านโทรศัพท์ว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกุล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.อ.ธีร์ธวัต ธุระกิจ รอง ผบก.ผค.สยศ.ตร. และรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกท่าน  ที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบทุน ประจำปี 2564 แก่บุตรข้าราชการ ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ทุนการศึกษของตนที่เกิดขึ้นเป็นทุนการศึกษา เพื่อตอบแทนคุณงามความดีของข้าราชการตำรวจที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทุกคนแบบเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในชีวิตตนไม่เคยแจ้งความร้องทุกข์ผ่านพนักงานสอบสวน หรือเดินเข้าสถานีตำรวจที่ใดมาก่อนเลย ครั้งนี้คือครั้งแรกของชีวิตจากการถูกหลอกลวงด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ จากคดีแชร์ออนไลน์ที่เป็นกระแสสังคมอย่างกว้างขวางจากการที่มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งตั้งใจฉ้อโกงประชาชน และกระทำความผิดคดีอื่น ฝๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหา เป็นภรรยาคนมีสี


“ดิฉันและผู้เสียหายหลาย ๆ ท่าน ต่างหวาดกลัว วิตกกังวลเป็นอย่างมาก เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว เพราะคิดว่าตำรวจอาจจะมีการช่วยเหลือกัน ที่สำคัญดิฉันและผู้เสียหายทุกคนต่างอุ่นใจและมั่นใจในการทำงานของทีมงานของทีมพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จัวหวัดนครศรีธรรมราช ที่ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาเป็นไปตามพยานหลักฐาน” สาวไทยแดนจิงโจ้กล่าว


”สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” กล่าวต่อไปอีกว่า ตนเป็นคนไทยที่อยู่ต่างแดนมักจะเห็นข่าวตำรวจไทยในด้านลบมาโดยตลอด จนเมื่อดิฉันและกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าพบ พล.ต.ต. สนธิชัย  อาวัฒนกุลเทพ หรือ “ผู้การเปี๊ยก” ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช  จึงเกิดเป็นความมั่นใจ อบอุ่นใจ และประทับใจ เชื่อมั่นในการอำนวยความความยุติธรรมของตำรวจไทยว่ามีอยู่จริง ประกอบกับ พ.ต.อ. มณเทียร เบ้าทอง และ พ.ต.ท. จริญ ขาวเอี่ยว รวมถึงพนักงานสอบสวนและตำรวจที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ท่าน  ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นความประทับใจที่ตนและผู้เสียหายยากจะลืมเลือน ตนคิดมาตลอดว่าจะหาทางตอบแทนคุณงามความดีของตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราชไอ้อย่างไร จนในที่สุดก็หลายมาเป็นจุดกำเนินของทุนการศึกษาบุตรตำรวจดังกล่าว


 ”ดิฉันตั้งใจจะมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจมาตั้งแต้ต้นปี 2564 แต่มีปัญหาอุปสรรคบางประการทำให้การมองทุนการศึกษาล่วงเลยมาจนถึงปลายปี 2564  จนกระทั้ง พล ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชคนใหม่ จึงติดต่อประสานงานเพื่อจัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้บุตรตำรวจและได้รับการตอบรับจาก พล ต. ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล จัดพิธีมอบทุนการศึกษาขึ้นในวันนี้ดังกล่าว นอกจากนี้กิฉันอยากให้สื่อมวลชนทุกสำนักช่วยนำเสนอข่าวนี้ให้แพร่หลาย โดยดิฉันอยากให้กำลังใจตำรวจทุกคนที่เป็นตำรวจที่ดี และมั่นใจว่าตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราชภายใต้การนำของ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสงบเรียบร้อยและสงบสุขของประชาชนและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตำรวจไทยต่อไป”สาวไทยแดนจิงโจ้ กล่าวย้ำ.









อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :