สำรวจสร้างเส้นทางรถไฟสายใต้ เชื่อม 4 จังหวัด หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว

กระบี่-กรมการขนส่งทางราง เร่งศึกษาสร้างทางรถไฟเชื่อมจังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ 4 จังหวัด สุราษฎธานี-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต เป็นรถไฟรางคู่สร้างในแนวเดิมของรถไฟ เพื่อเชื่อมเศรษฐกิจ การขนส่งพืชผลการเกษตร ควบคู่การท่องเที่ยว

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดี กรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า กรมการขนส่งทางราง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐาน โดยเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางของประเทศ รวมถึงแผนการพัฒนาด้านีตการขนส่งทางราง ศึกษาและพัฒนาเพื่อกำหนดโครงข่ายการขนส่งทางราง จึงมีความจำเป็น ต้องดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ และรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟ สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยว และการพัฒนาพื้นที่ โดยจะเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายเดิมกับแหล่งเกษตร กรรม แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค ทั้งในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายโอกาส การพัฒนาความเจริญสู่ระดับจังหวัด และภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

สำหรับการวางแผนโครงข่ายเส้นทางรถไฟเพื่อเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีการพูดคุยในเวทีสัมมนา โดยมีการนำเสนอเส้นทางโครงข่ายรถไฟ สุราษฎร์ธานี-พังงา-กระบี่-ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ โครงการดังกล่าวจะเชื่อมท่าเรือดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยแนวเส้นทาง ผ่านพื้นที่บ้านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต และเส้นทางทับปุด-กระบี่ แยกจากเส้นทางสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต ที่สถานีทับปุด ลงมาเชื่อมต่อกับสนามบินนานาชาติกระบี่ ระยะทาง 68 กม. ครอบคลุมเขตพื้นที่ จ.กระบี่ 2 อำเภอ คือ อ.อ่าวลึก และ อ.เมืองกระบี่ แนวเส้นทางจะเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร รองรับความเร็วสูงสุดที่ 160 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งทำให้เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวผ่าน 4 จังหวัดสุราษฎร์ธานี-พังงา-กระบี่-ภูเก็ต เชื่อมสนามบินภูเก็ต กระบี่ และท่าเรือดอนสัก โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเล ในพื้นที่ภาคใต้มากกว่า 30 ล้านคนต่อปี

ด้านนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รอง ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกควบคู่กันไป เพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่น ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ ถนน เพื่อให้การท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ สามารถรองรับและให้บริการ นทท.ได้ทั้งการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ นทท.ได้รับความสะดวกสบาย เกิดความประทับใจ จึงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จนเป็นจังหวัดที่สามารถสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศได้สูงเป็นลำดับที่ 5 รองจากกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่ 

ขณะเดียวกัน ในภาคเกษตรกรรมการปลูกปาล์มน้ำมันที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักก็ขยายพื้นที่ปลูกมากเป็นลำดับต้นของประเทศ ส่งผลให้เกิดภาคอุตสาหกรรมตามมา คือ อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดยมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและลานเทเป็นจำนวนมาก ในอนาคตหากมีเส้นทางรถไฟเข้ามา จ.กระบี่ ก็จะเป็นทางเลือกในการเดินทางของนทท.ทั้งชาวไทย และต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกในการลดต้นทุนการขนส่งให้กับผู้ประกอบการได้อีกด้วย.