สื่อไทยต้อนรับ-กระชับความสัมพันธ์สื่อเวียดนาม
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 26 พ.ย. 2567, 16:31 น. อ่าน : 170กรุงเทพฯ - เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2567 เวลา 11.30 น. นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ให้การต้อนรับ นายเลอ ก๊วก มินห์ ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเวียดนาม นำคณะผู้บริหารและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เวียดนาม รวม 5 คน มาเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย องค์กรรวมภาคีสมาชิก 12 องค์กร พร้อมทั้งเยี่ยมชมและดูการทำงานของงสื่อมวลชนไทยในยุคปัจจุบัน
ต่อจากนั้นเวลา 14.30 น. นางสาว น.รินี เรืองหนู รองประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และ นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการ ได้นำ นายเลอ ก๊วก มินห์ ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม และคณะ พร้อมสื่อมวลชนเวียดนามที่ประจำอยู่ในประเทศไทย จำนวน 10 คน เข้าเยี่ยมคารวะ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ห้องรับรองกรมสารนิเทศ โดยมี นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงฯ และ นายจีระศักดิ์ ป้อมสุวรรณ ผู้อำนวยการกองการสื่อมวลชน ร่วมให้การต้อนรับ
นายรัศม์ ชาลีจีนทร์จันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยและเวียดนามเป็นประเทศคู่ค้าที่มีความสำคัญ การที่สื่อมวลชนมีการแลกเปลี่ยนกันเป็นเรื่องที่ดี ในการช่วยสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เมื่อก่อนการทำข่าวจะนำเสนอข่าวผ่านสำนักข่าวต่างๆ แต่ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อโซเชียลด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนต้องตรวจสอบกันตามหลักวิชาชีพ บนพื้นฐานของความถูกต้อง การที่สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม มีการเชื่อมความสัมพันธ์กัน ช่วยให้การเสนอข่าวสารทำความเข้าใจอันดีให้แก่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
ด้าน นายเลอ ก๊วก มินห์ ประธานสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเวีดยนาม กล่าวว่า สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม มีการเชื่อมความสัมพันธ์กันมากว่า 30 ปี ร่วมกิจกรรมและเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศไทย ปัจจุบันสถานการณ์สื่อมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี แต่สื่อหลักก็ต้องทำหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพ ท่ามกลางสื่อยุคใหม่ทางสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเวียดนาม มีความเป็นห่วงเรื่องการเสนอข่าวทางสื่อใหม่ที่เป็นเฟคนิวส์ (ข่าวปลอม) ที่อาจสร้างเข้าใจผิดๆ ขึ้นได้ทั้ง 2 ฝ่าย ทางองค์กรสื่อทั้ง 2 ประเทศ ต้องร่วมมือกันในการเสนอข่าวที่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
จากนั้นเวลา 16.00 น. คณะของสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเวียดนาม ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับคณะผู้บริหาร สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ห้องประชุมอาคารพิพิธภัณฑ์ สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีเรื่องติดตามความร่วมมือที่ต้องสานต่อกันได้แก่ 1.การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและกีฬา โดยปี 2568 สื่อมวลชนเวียดนามจะมีการฉลองครบรอบ 100 ปี จึงขอเชิญสื่อมวลชนไปร่วมสายสัมพันธ์กันด้านการแข่งขันกีฬา และกิจกรรมอื่นๆ โดยทางสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ยินดีไปร่วมกิจกรรม 2.การพัฒนาบุคลากรด้านภาษาของบุคลากรในวิชาชีพสื่อมวลชน เช่น ด้านภาษา ที่เคยมีความร่วมมือกันมาแล้ว กับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก็จะดำเนินการต่อ และด้านเทคนิคการทำงานภาคสนามในสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติ จะมีการอบรมให้ความรู้แก่สื่อมวลชนทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน
นอกจากนี้มีการหารือกันในเรื่องกรอบการทำงานของสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียน ที่ทางมาเลเซีย จะต้องจัดประชุมคณะกรรมการบริหาร และถึงคิว สปป.ลาว รับตำแหน่ง ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียน ต่อจากประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับ คณะผู้แทนสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมประชุม มี นางสาว น.รินี เรืองสุข รองประธานสมาพันธ์ฯ คนที่ 1 ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล ที่ปรึกษา และอดีตประธานสมาพันธ์ฯ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาและอดีตประธานสมาพันธ์ นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการ นางสาวปิยสุดา จันทรสุข เหรัญญิก นายสมศักดิ์ ศรีกำเหนิด กรรมการสมาพันธ์ฯ นายกฤตนวพรรณ วชิรบ้านกลาง กรรมการสมาพันธ์ฯ นายวีระพันธ์ โตมีบุญ อนุกรรมการประสัมพันธ์ และบรรณาธิการเว็บไซต์สมาพันธ์ฯ นางวันทนา วิริยะกุล อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และ นางชลิดา ฉันทเลิศลักษณ์ อนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศ
ส่วนกำหนดการเยี่ยมดูงานของคณะผู้บริหาร สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเวียดนาม จะเยี่ยมชมกิจการ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน), สำนักข่าว THE STANDARD, เครือมติชน, เยี่ยมชมด้านการท่องเที่ยวชม “หมูเด้ง” ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว, สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี และเยี่ยมชมการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวยุคใหม่ของเมืองพัทยา ก่อนเดินทางกลับวันที่ 29 พ.ย.2567.