ส่งหลักฐาน”บัญชีผี”ทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจพัทลุง พิสูจน์หลักฐานเพื่อจับกุม
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 13 เม.ย. 2565, 09:00 น. อ่าน : 850พัทลุง-ตำรวจชุดสอบสวนคดีทุจริตโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ส่งหลักฐานการตบแต่งบัญชีผีในระบบคอมพิวเตอร์ให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ตรวจสอบข้อมูลการปลอมแปลงด้านผู้การฯพัทลุงยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่จะไม่ปกป้องช่วยเหลือผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด
คดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งขณะพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ผู้เข้ามาคุมคดี ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. มือปราบคดีลักรังนก นำกำลังตำรวจฝีมือดีของ สตช. มาร่วมคลี่คลายคดีร่วมกับ ตร.ภ.9 และ ภ.จว.พัทลุง โดยในเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาที่จะออกหมายจับประมาณ 80 คน ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ต้องสงสัยวิ่งเข้าขอความเป็นธรรมต่อตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัด เพราะเชื่อมั่นว่าตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ยืนยันว่าการจะแจ้งข้อหาผู้ใดนั้นตำรวจจะยึดเอาพยาน เอกสาร และหลักฐานเป็นส่วนสำคัญ ด้านสมาชิกร้องขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบการทำหน้าที่ของ จนท.ส่งเสริมสหกรณ์ฯบางรายที่น่าจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์ฯเรียกร้องให้สอบปากคำ จนท.ส่งเสริมสหกรณ์ฯบางรายที่น่าจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ นั้น ทางด้าน พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เชิญบุคคลดังกล่าวมาสอบปากคำแล้วแต่ไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตามล่าสุดพนักงานสอบสวนของ สตช.ได้พบข้อมูลการตกแต่งบัญชีผีที่กู้ได้จากระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่จะสามารถมัดตัวกลุ่มผู้กระทำความผิดจนดิ้นไม่หลุด ส่วนข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ก่อนหน้านี้ได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ขณะนี้ได้ส่งระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไปตรวจสอบข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ ณ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลาแล้ว ส่วนการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาน่าจะมีขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากต้องรอหลักฐานธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง และผลการตรวจตรวจสอบข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญในการยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดพัทลุงต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า ผู้ต้องหาที่จะถูกออกหมายจับนั้นจะมีความผิดฐาน 1.ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง 2.ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม 3.ได้รับการมอบหมายให้จัดการกับทรัพย์สินของผู้อื่น กระทำการโดยทุจริต จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และ (4) ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น ซึ่งพยาน หลักฐาน เอกสาร ในประการที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นความผิดที่หนักและรุนแรง
ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้เสียหายด้วย แต่จะไม่ให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด ในส่วนของการทุจริตเงินสหกรณ์นั้นกลุ่มผู้กระทำความผิดนำไปใช้ใน 2 ส่วน คือ นำไปปันผล/เฉลี่ยคืนแก่สมาชิกในอัตราที่สูงจนสมาชิกตายใจในเล่ห์กลโกง และนำไปแบ่งปันจัดสรรผลประโยชน์ให้กลุ่มทุจริตด้วยกัน และหากมีการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ฯอย่างแน่นอน ซึ่งทาง ภ.จว.พัทลุงได้เตรียมความพร้อมในแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่พนักงานสอบสวนได้อายัดเงินสดในบัญชีธนาคารที่โอนไปจากกลุ่มผู้ทุจริตสหกรณ์ฯตำรวจบางรายนั้น เจ้าของบัญชีก็ได้มีการแจ้งความเอาผิดกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว 1 ราย และคาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีผู้เข้ามาแจ้งความเอาผิดกับพนักงานสอบสวนตามมาตรา 157 ที่โรงพักแห่งหนึ่ง อีก 1 ราย ในขณะที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 9 สงขลา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดส่ง จนท.มาประสานงานกับพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อเข้ามาตรวจบัญชีสหกรณ์ตำรวจที่มีการทุจริตในครั้งนี้ด้วย ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.