ส.ส.สงขลา ประชุมชาวบ้านเดือดร้อนโครงการสร้างสะพานล่าช้า
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 พ.ย. 2566, 17:10 น. อ่าน : 502สงขลา-ส.ส.สงขลา ประชุมแก้ปัญหาชาวบ้านเดือดร้อนหนัก จากการก่อสร้างสะพานข้ามแยกคูหาที่ล่าช้า รถติดทุกวันนานเป็นชั่วโมง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถทำมาหากินได้ ก่อสร้างมาปีกว่าแต่ความคืบหน้ามีน้อยมาก
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 เวลา 10.30 น ที่ศูนย์ประสานงานนายกชาย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ได้มีการนัดประชุมหารือถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชนที่ได้รับผลกระทบจากงานก่อสร้างสะพานข้ามแยกคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา 2 สมัย รองหัวหน้าพรรคช้าประชาธิปัตย์ นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ส.ส.เขต 9 สงขลา นายสมคเน เสมทัพพระ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสงขลาที่1 นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจรัตภูมิ พร้อมด้วยผู้ควบคุมโครงการ ตัวแทนผู้รับเหมาโครงการ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และตัวแทนพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาร่วมสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น
สำหรับโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับสี่แยกคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) กับทางหลวงหมายเลข 406 (ถนนยนตรการกำธร) เป็นการก่อสร้างทางต่างระดับเป็นสะพานบนทางหลวงหมายเลข 4 ข้ามทางหลวงหมายเลข 406 ตัวสะพานมีความยาวรวม 750 เมตร ขนาด6 ช่องจราจรไปกลับ พร้อมสี่แยกวงเวียนระดับพื้นใต้สะพานแบบไม่มีการควบคุมสัญญาณไฟจราจร การปรับปรุงถนนขยายถนน ทล.4 ระยะทาง 3.1 กิโลเมตร ขยายถนน ทล. 406 ฝั่งทางไปควนเนียงระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตรและฝั่งทางไปรัตภูมิมีการขยายถนนเต็มพื้นที่เขตทางหลวง วงเงินการก่อสร้าง 950 ล้านบาท เริ่มดำเนินโครงการ 24 กันยายน 2564 สิ้นสุดโครงการตามสัญญาวันที่ 7 กันยายน 2567 แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการขยายเวลาสิ้นสุดโครงการเป็นเดือนมิถุนายน 2568 ผู้ชนะการประมูลคือ กิจการร่วมค้า พีซี-เอสเอ็ม จังหวัดเชียงใหม่
ปรากฏว่าช่วงระยะเวลาการก่อสร้างมากกว่า 1 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ตอนแรกดีใจและพร้อมเสียสละเพื่อให้การพัฒนาเกิดขึ้นในพื้นที่ ผู้สัญจรไปมาได้รับความสะดวกสบาย แต่นับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการทุกคนต่างมีความเห็นกันว่าการงานของผู้รับเหมาเป็นไปอย่างล่าช้า ขาดการประสานงานกับชาวบ้านกับผู้นำในพื้นที่ ผู้ประกอบธุรกิจในแนวเขตก่อสร้างหลายร้านต้องปิดกิจการ บางร้านแบกรับภาระขาดทุนมาตลอดเพราะไม่ลูกค้า ไม่มีเส้นทางให้ลูกค้าเข้ามาถึงร้าน มีการขุดคูปิดทางหน้าบ้านหน้าร้านค้าแล้วไม่ดำเนินการใดๆ เป็นเวลาหลายเดือน รวมถึงปัญหาฝุ่นละออง โคลนตม ปัญหาการจราจรติดขัด และอีกหลายปัญหาที่ส่งผลกระทั้งทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตสุขภาพของชาวบ้านในพื้นที่ มีการสอบถาม/ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแต่ยังไม่ๆได้รับการแก้ไขที่จริงจัง ล่าสุดมีการอภิปรายหารือในสภาโดย นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ส.ส.ไปแล้ว แต่ความคืบหน้ายังมีไม่มาก จึงได้มีการนัดประชุมกับทุกภาคส่วนในวันนี้
ต่อมานายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ส.ส.สงขลาเขต 9 นายสมคเน เสมทัพพระ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจรัตภูมิ พร้อมด้วยผู้ควบคุมโครงการ ตัวแทนผู้รับเหมาโครงการ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ได้ลงพื้นที่จุดที่มีปัญหาโดยพบว่ามีร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ได้รับผลกระทบ
จากการสอบถามป้าหมู ได้เล่าว่า ขายของอยู่ตั้งแต่แรกแล้วแต่ก่อนขายอยู่รายได้วันนึง 20,000 ถึง 30,000 บาท ตอนนี้เหลือราวๆ 5,000 บาทได้ เพราะว่ารถมันเข้าไม่ได้ป้าขายตั้งแต่ตี 2 นานกว่า 20 ปี พวกรถสิบล้อหัวลากมาจากกทม. รถอะไรเขาก็จะมาแวะซื้อแต่มาตอนนี้เขาก็เข้ามาไม่ได้เพราะมันไม่มีทางให้รถเข้า เราเดือดร้อนเพราะเขาก็ไม่รีบทำ เราทำมาหากินทั้งค่าน้ำค่าไฟทุกอย่าง มาเดือดร้อนหนักจริงๆช่วงหลัง 1 ปีนี้แต่ก่อนยังพอขายได้บ้างบางทีถ้าฝนตกหนักน้ำนองเลยตรงนี้ข้าวของลอยต้องเดินไปเก็บ ป้าขายทุกอย่างอาหารตามสั่งข้าวแกง อยากให้เร่งเข้ามาแก้ไข
“รถติดทุกวันฝนตกน้ำท่วมขังร้านค้าขายไม่ได้เราก็แจ้งไปแล้วให้มาช่วยทำทางเข้าก็ไม่มีหน่วยงานออกมา ค่าใช้จ่ายก็ต้องจ่ายทุกเดือน บางร้าาขายไมไ่ด้เลยเพราะเขาปิดถนนตรงนั้นฉันมีอาชีพนี้รายได้ทางเดียวเท่านั้น รถติดทุกวันฝนตกน้ำท่วมขังร้านค้าขายไม่ได้เราก็แจ้งไปแล้วให้มาช่วยทำทางเข้าก็ไม่มีหน่วยงานออกมา ค่าใช้จ่ายก็ต้องจ่ายทุกเดือน บางร้าาขายไมไ่ด้เลยเพราะเขาปิดถนนตรงนั้นฉันมีอาชีพนี้รายได้ทางเดียวเท่านั้น เราสุ้จนไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว มีแต่ขี้โคลนทั้งนั้น”ป้าหมู กล่าว
ทางด้าน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เปิดเผยว่า จริงๆตนได้รับการร้องเรียนมาจากพี่น้องประชาชนหลายจังหวัดที่ผ่านสี่แยกคูหา แต่มาวันนี้เราได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องที่อยู่บริเวณโดยรอบสี่แยกคูหาส่วนใหญ่ส่วนเป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่พอมีโครงการเข้ามาเป็นเวลาปีกว่าแล้วไม่มีทิศทางว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ขณะนี้ก็ยังสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องเจ้าของร้านเจ้าของกิจการต้องปิดร้านหนี แล้วตนคิดว่าพวกเขาก็ต้องเป็นหนี้เป็นสินต้องไปกู้เบี้ยนอกระบบ ฉะนั้นตนต้องให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมานั่งตรงนี้เพื่อประชุมหาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของโครงการหรือกรมทางหลวง ผู้รับเหมาตัวแทนเดือดร้อน นายอำเภอนักการเมืองท้องถิ่น
“หาทางออกรวมกันปัญหาติดตรงไหนเราจะได้แก้ตรงจุดนั้นไม่ใช่ต่างคนต่างซัดกันไปมา เช่นปัญหาติดคนนั้นคนนั้นบอกติดคนนี้มันก็ไม่ใช่ วันนี้ผมจึงอยากมาแก้จึงนัดประชุมครั้งที่ 1 ถ้ายังแก้ไม่ได้ท้ายสุดผมจำเป็นต้องเอาทนายมาฟ้องเรียกค่าเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน จริงๆโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปีหน้า โครงการพันกว่าวันประมาณ 3 ปีกว่า แต่ผมดูแล้วไม่มีทางเสร็จแน่นอนเพราะจะอ้างว่าติดนั่นไปเรื่อยๆ เพื่อหาเหตุที่จะไปขยายการก่อสร้างให้ยาวออกไปอีก ประชาชนก็ยิ่งเดือดร้อนมากกว่าเดิม ตรงไหนที่ผมช่วยได้ผมช่วยตรงไหนติดที่ประชาชนเขาก็อยากช่วย” นายเดชอิศม์กล่าว
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่าทุกปัญหาตนมองว่า 1.ผู้จัดการโครงการตัวแทนจากกรมทางหลวง ผู้รับเหมาขาดการประสานงานกัน และผู้มีส่วนได้เสียอีกฝ่าย ผู้เดือดร้อนกลายเป็นว่ายืดเยื้อต้องตำหนิ 2 หน่วยงานหลัก ยังไงก็ต้องหาทางออกร่วมกันเดี๋ยวจะไล่ต้อนทั้งหมดว่าติดตรงไหนเพราะทุกคนยินดีร่วมแก้ทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาเหมือนรู้ว่าติดตรงไหน แต่ผู้ประสานติดตามโครงการไม่ได้แจ้ง ตอนนี้ยังไม่ได้วางมาตรการช่วยเหลือแต่ถ้าท้ายสุดยังกำหนดทิศทางไม่ได้ ตนจำเป็นต้องให้พี่น้องประชาชนฟ้องเรียกค่าเสียหาย.