หนุ่มตรัง ปลูกบอนด่างขายทำรายได้เดือน 3 หมื่น แม้กระแสจะลดลง

ตรัง-หนุ่มส่งของชาวตำบลบ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง ทิ้งงานประจำหันมาปลูกบอนสี บอนด่างและไม้แปลกขาย สร้างรายได้งาม แม้กระแสความนิยมจะลดลงมาก แต่รายได้ยังไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000  บาทต่อเดือน เน้นราคาจับต้องได้ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนบอนด่างข้างบ้านของนายเชาวลิต คงเมือง อายุ 34 ปีตั้งอยู่เลขที่ 39 หมู่ที่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง พาผู้สื่อข่าวไปชมต้นบอนด่างหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งบอนนาไทย บอนกระดาษด่าง ออดิบด่าง หน้ากากฟาโรห์ หูช้างด่างเหลือง ด่างขาว บอนกระดาษก้านทอง กล้วยลายเสือ  เพชร 7 สี บอนโหราใบหยักมอนสเตร่าใบด่าง บอนเหลืองอันดามัน บอนขาว บุษราคัม บอนดำด่างชมพูหรือเซเรน กล้วยแดงอินโด และอื่น ๆ ที่มีกว่า 300 ชนิด ซึ่งเจ้าตัวได้ตระเวนหาซื้อมาจากแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำมาขยายพันธุ์และขายสร้างรายได้

นายเขาวลิต เปิดเผยว่า เริ่มจากปี 2564 ขณะนั้นเป็นพนักงานส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่รู้สึกชื่นชอบไม้ด่างและไม้แปลกตาหายาก ประกอบกับติดช่วงโควิดทำให้มีงานประจำน้อยลง ตนจึงตัดสินใจนำเงินทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 400,000 บาท ไปหาซื้อไม้ด่าง ไม้ฟอกอากาศและตระกูลบอนมาสะสมไว้และทยอยขายผ่านทางโลกออนไลน์ จนกระทั่งต่อมาได้ลาออกจากพนักงานประจำ หันมาเพาะไม้ด่างขายเป็นรายได้หลักแทน โดยมีไม้ชนิดต่าง ๆ ให้เลือกกว่า 300 ชนิด และแม้ปัจจุบันราคาไม้ด่างจะลดลงมาก แต่ทางภาคใต้ ถือว่าไม้ประเภทนี้ ยังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยขายตั้งแต่ต้นละ 200 บาท-40,000 บาท เน้นราคาจับต้องได้ ปรากฏว่ายังคงสร้างรายได้ให้ไม่ต่ำกว่า20,000-30,000 บาทต่อเดือน

ส่วนใครสนใจอยากจะหาซื้อไม้ด่างและไม้แปลกตาหายากราคาถูก หรืออยากจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนพันธุ์ไม้กัน ก็สามารถเข้าไปติดต่อได้ทาง FB สวนบอนกระดาษด่างตรังหรือ สวนบอนด่าง...ข้างบ้านตรัง  และที่หมายเลขโทรศัพท์ 088-1677226  

นายเชาวลิตกล่าวอีกว่า ตอนนี้มีไม้ประมาณ 300 กว่าชนิดมีทุกสายพันธุ์ ส่วนไม้ที่ยังมีราคาแพงคือเซเรนบุษราคัม บอนนา หลายชนิดที่มารวมกันอยู่ในสวน ส่วนราคาสูงสุดตอนนี้คือต้นราคาหลักหมื่น 3-4 หมื่นบาท โดยไม้ที่สะสมเป็นไม้ที่มาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตอนนี้กลายเป็นรายได้หลักเพราะไม่ทำอย่างอื่นแล้วมาปลูกต้นไม้โดยเฉพาะ สร้างรายได้เดือนละประมาณ 20,000-30,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ เพราะเมื่อก่อนกับตอนนี้ราคาไม่เหมือนกันแล้ว ช่วงก่อนที่ไม้มาแรงมีคนต้องการไม้เยอะ  แต่ตอนนี้คนไม่มีเงินก็สามารถหาซื้อได้  ราคาถูกเลือกซื้อได้เป็นบางต้น โดยราคาต้นแม่พันธุ์จะขายคนละราคากับต้นลูก.