หนุ่มแสบอ้าง “เฮียให้มาเอา” หลอกสั่งอาหารจากร้านค้า วงจรปิดจับภาพได้

กระบี่-หนุ่มแสบอ้าง "เฮียให้มาเอา" หลอกสั่งหิ้วไก่ต้ม และลิ้นหมู อ้างเจ้าร้านให้มาเอา แล้วขับ จยย.หนีไปคนละเส้นทางบ้านเจ้าของร้าน พนักงานร้านเอะใจโทรศัพท์ถามเจ้าของร้าน จึงรู้ว่าถูกหลอก และเปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบพบว่าเป็นสามีอดีตพนักงานที่ให้ออกไป

พฤติกรรมหลอกลวงรายนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้าน"ณัฐเลิศรส เมี่ยงปลาเผา"  ริมถนนเพชรเกษม หมู่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ บันทึกภาพของชายคนหนึ่ง ขี่รถจยย.มาจอดหน้าร้าน แล้วสั่งให้พนักงานของร้าน สับไก่ต้มให้ 1 ตัว ลิ้นหมูต้มพะโล้ 2 ชิ้น และข้าวเหนียวอีก 4 ห่อโดยบอกกับพนักงานของร้านว่า "เฮียให้มาเอา" ทำให้พนักงานของร้านรีบจัดการสับไก่ และลิ้นหมู ใส่กล่องใส่ถุงให้กับชายคนดังกล่าว ก่อนจะหิ้วถุงขี่รถ จยย.ออกจากร้านไป แต่สุดท้ายพนักงานของร้านเอะใจ เลยโทรศัพท์ไปสอบถามกับเจ้าของร้าน ปรากฎว่า ถูกหลอก จึงนำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงบนโซเชียล

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์เรื่องนี้ ทราบชื่อคือ น.ส.รติมา ถาปัน อายุ 28 ปี เป็นพนักงานของร้านดังกล่าว สอบถามทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและพนักงานอีกราย กำลังยุ่งขายของอยู่ด้านหน้าร้าน ชายคนดังกล่าวก็ขี่รถ จยย.เข้ามาที่หน้าร้าน พร้อมกับบอกว่าเฮียเจ้าของร้านนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บ้าน แล้วสั่งให้ออกมาเอาไก่ต้ม ลิ้นหมู และข้าวเหนียว ไปให้ที่วงเหล้า ตนเองเห็นว่าที่ผ่านมาเจ้าของร้าน มักจะให้คนออกมาเอาของกินจากที่ร้านเป็นประจำ โดยจะให้คนมาเอาไม่ค่อยซ้ำหน้ากัน จึงไม่ได้เอะใจอะไรประกอบกับช่วงเกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวทำทีเป็นเดินไปเดินมา ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์กับเจ้าของร้านให้ตนได้ยินเสียงจึงเชื่อว่าน่าจะจริง จัดการสับไก่และลิ้นหมู่ใส่กล่องไปให้ โดยของที่จัดใส่กล่องไปให้มีมูลค่ารวม 610 บาท 

น.ส.รติมา   เผยอีกว่าแต่พอชายคนดังกล่าวขับขี่รถออกจากร้านไป เห็นว่าไม่ได้ขับขี่เข้าไปทางบ้านเจ้าของร้านจึงลองโทรศัพท์สอบถามเจ้าของร้านดู จึงได้รู้ว่าถูกหลอกแล้ว และให้เจ้าของร้านเปิดกล้องวงจรปิดที่ร้านดู ก็ทราบว่าชายคนดังกล่าว ที่แท้เป็นสามีของอดีตพนักงานคนหนึ่ง ที่ถูกไล่ออกจากร้านไปแล้วหลายเดือนแล้ว

ด้านนายชาณัฐธนพร ศรีรัตนะ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ตนได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ แล้ว เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี เพราะทราบตัวว่าเป็นสามีของอดีตพนักงานหญิงของร้าน ที่ตนเองเคยไล่ออก พฤติกรรมของชายคนดังกล่าว สอบถามจากร้านค้าอื่น ๆทราบว่าเคยไปก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จึงไม่อยากปล่อยให้เป็นภัยกับร้านอื่นอีก นอกจากของที่มาเอาจากร้านตนแล้ว ช่วงที่ตนไปแจ้งความอยู่ ก็พบกับผู้เสียหายอีกราย ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถ จยย.ที่ชายคนดังกล่าวขี่มาก่อเหตุที่ร้านตนด้วย ทราบว่าคดีขโมยรถ ตำรวจกำลังออกหมายเรียกให้ชายคนนี้มาพบตำรวจด้วยอีกคดี โดยปกติตนเองและภรรยา จะชอบทำบุญช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว แต่ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ หากไม่มีจะกิน แล้วมาพูดคุยกันดีๆ ตนเองก็ให้กินได้ จึงอยากฝากเตือนให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว และเข้าไปมอบตัวกับตำรวจด้วย.