หมอโพสต์เตือนภัย ฟันปลอมหลุดเข้าลำคอ หญิงชราวัย 80 ปี รอดตายหวุดหวิด

นครศรีธรรมราช- แพทย์โพสต์พบผู้ป่วยหญิงชราวัย 80 ปี ฟันปลอมหลุดติดคอขณะกินยา ไหลลงหลอดอาหาร โชคดีช่วยชีวิตไว้ทัน

       เรื่องราวของฟันปลอมหลุดลงลำคอไปอยู่ในหลอดอาหารครั้งนี้ เปิดเผยขึ้น เมื่อ 19 มิ.ย.2563 นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรม

ราช ได้โพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวชื่อ”Arak   Wongworachat” เมื่อเวลา 17.35น.ข้อความ#เตือนภัยฟันปลอมหลวมหลุดออกมากลืนลงไปติดค้างที่หลอดอาหาร# อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้หากไปอุดที่หลอมลม#  เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 80 ปี ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง ด้วยประวัติว่า ขณะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ นั่งพักครึ่งชั่วโมง เอายาโรคประจำตัวมารับประทาน ขณะอ้าปากเงยหน้าขึ้นเพื่อเอายาเข้าปาก ฟันปลอมทั้งปากด้านบนเกิดหล่นลงมา ในจังหวะที่ยาอยู่ในปากแล้ว จึงเผลอกลืนลงไปทั้งยา และฟันปลอม นาทีนั้นรู้สึกเหมือนจุกแค้นที่คอหายใจไม่ออก ต้องพยายามหายใจทางปากอ้าปากเอาไว้ เอามือล้วงในคอก็ไม่เจออะไร ขากเสมหะก็ไม่ออก เหมือนตนเองจะสิ้นใจ เจ็บในลำคออย่างมาก ญาติจึงตัดสินใจให้กินน้ำตามลงไปอีกครั้ง พร้อมข้าวปั้น 

      ผู้ป่วยเล่าว่าเหมือนฟันปลอมครูดลงไปจนเจ็บปวดในยอดอกมาก หลังจากนั่นจึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน แพทย์เวรได้ใช้เครื่องมืออ้าปากเพื่อใส่ท่อช่วยหายใจส่องดู พบว่ามีบาดแผลรอยช้ำ บวมมากในคอ มีเลือดไหลแต่ไม่เจอฟันปลอม ส่งเอ็กซเรย์ก็ไม่เห็นภาพทางรังสี เนื่องจากไม่มีโลหะปน คนไข้ปวดทรมาน แต่ยังพอหายใจเองได้ จึงประสานนำส่งโรงพยาบาลสิชลให้งดอาหารและน้ำ ให้น้ำเกลือ ยาระงับปวด ให้ออกซิเจน ศัลยแพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อส่องกล้องเข้าไปดู วิสัญญีแพทย์เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจหากหายใจลำบาก เมื่อส่องกล้องพบร่องรอยฟันปลอมครูดไปตลอดทาง และไปติดค้างอยู่ตรงตำแหน่งปลายสุดของหลอดอาหาร เป็นแนวขวาง ก่อนลงไปในกะเพาะอาหาร จึงใช้เครื่องมือสอดผ่านกล้องคีบดึงออกมาได้อย่างปลอดภัย หลอดอาหารแม้จะมีแผลแต่ไม่ทะลุ จึงให้น้ำเกลือต่อ งดอาหาร น้ำอีก 3วัน ให้กลับบ้านได้  ...จึงขอเตือนให้ระมัดระวัง ฟันปลอมหลวม แตกหัก ชำรุด ให้รีบไปปรึกษาทันตแพทย์…”

 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นพ.อารักษ์ โพสต์ข้อความเตือนภัยดังกล่าว ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วไปในโลกโซเซียล ต่างกดไลท์และแชร์จำนวนมากและแสดงความความคิดไปต่างๆนานาด้วยความห่วงใยและขอบคุณคุณหมอที่ออกมาเตือนภัยในครั้งนี้.