อธิบดี DSI บินสำรวจพื้นที่ริมหาดคลองสน ตรวจสอบสิทธิ์ พร้อมกับอีกกว่า 2 หมื่นไร่

หมวดหมู่ : กระบี่, ทั่วไป,

อ่าน : 524
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช DSI รุกหาดคลองสน
อธิบดี DSI บินสำรวจพื้นที่ริมหาดคลองสน ตรวจสอบสิทธิ์ พร้อมกับอีกกว่า 2 หมื่นไร่

กระบี่-DSI จับมือกรมที่ดิน เร่งสอบ น.ส.3 รุกหาดคลองสน พร้อมลุยตรวจอีกกว่า 2 หมื่นไร่ คาด 3 เดือนรู้ผล


จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำการบินสำรวจพื้นที่ตรวจยึดเก่าเมื่อปี 2546 เนื้อที่ 125 ไร่บริเวณริมหาดคลองสน ในอ่าวทึ้ง หมู่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบว่ามีการไถปรับพื้นที่ที่เคยตรวจยึดใหม่ 8 ไร่ จึงสั่งการให้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ดำเนินการแจ้งความหาตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งต่อมามีเอกชนอ้างว่ามีสิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยอ้างเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. เนื้อที่รวม 30 ไร่ ซึ่งเป็น น.ส.3 ก. ที่ออกมาหลังประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยานฯ กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำเลทอง หากมีการครอบครองและซื้อขาย จะมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งต่อมาทาง กอ.รมน.ภ.4 เห็นว่าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวล่าช้า และเชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิ อาจจะออกโดยมิชอบ จึงเข้ามาร่วมตรวจสอบ และเร่งรัดให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ


ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2565 เวลา 09.00 น.นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผอ.สบอ.5 ตัวแทนอุทยานฯ และ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ชุดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ กอ.รมน.ภ.4 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของจนท.พบว่าพื้นที่ดังกล่าว น่าจะมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ แต่กระบวนการตรวจสอบยังต้องรอหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางอากาศ ที่แปลโดยกรมอุทยานฯ 


นอกจากนี้ในที่ประชุมนายไตรยฤทธิ์อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งให้หน่วยงานรับผิดชอบทราบว่า จะดำเนินการตรวจสอบที่ดินทั้งหมดในเขตอุทยานฯ ไม่ใช่เฉพาะแปลงที่มีปัญหา 125 ไร่เท่านั้นโดยคาดว่าจะต้องตรวจพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ แต่ในเบื้องต้นจะส่งทีมบินโดรนของ DSI ลงมาบินเก็บภาพทางอากาศก่อน หลังจากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะประสานไปยังกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิในแปลงที่เชื่อว่าออกโดยมิชอบ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพูดคุย นายไตรยฤทธิ์ ได้ติดต่อโดยตรงไปยังนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อประสานขอข้อมูลเรื่องแนวเขตที่ดินในแปลงที่มีปัญหา ซึ่งทางอธิบดีกรมที่ดิน ตอบกลับมาว่าทางกรมที่ดินพร้อมร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหากับที่ดินที่ถูกออกเอกสารโดยมิชอบ โดยหลังจากนี้จะเร่งจัดทีมช่างรังวัดจากกรมที่ดิน ลงมาสำรวจพื้นที่ร่วมกับ จนท.DSI จนท.อุทยานฯ และทหาร


นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า กรณีการบุกรุกที่ดินริมชายหาดบริเวณหมู่ 4 ต.อ่าวนาง เนื้อที่ 125 ไร่ นั้นเบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิแบ่งแยกจาก 6 แปลง เป็น 38 แปลงย่อย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนว่าเป็นการออกโดยมิชอบหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่อยู่ในขั้นตอนที่จะรับเป็นคดีพิเศษ แต่จะเป็นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเข้ามาช่วยในส่วนของการสืบสวนสอบสวน หากผลการพิสูจน์หลายอย่างออกมาชัดเจนแล้วว่ามีการบุกรุกเกิน 100 ไร่ ก็จะพิจารณารับเป็นคดีพิเศษอีกครั้ง แต่ขั้นต้นจะเร่งตรวจสอบเรื่องแนวเขตที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่อีกกว่า 20,000 ไร่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง-ป่าหางนาค ซึ่งตามปกติจะต้องใช้เวลาดำเนินการนานประมาณ 6 เดือน แต่กรณีนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนจะทำงานร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานฯ และกรมที่ดิน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ก็น่าจะรู้ผล 


ส่วนจะมีการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ที่การสอบสวนว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิบ้างสำหรับผู้ครอบครองปัจจุบัน ส่วนใหญ่อาจไม่รู้เรื่องด้วย แต่หากสอบสวนพบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการออกเอกสารโดยมิชอบ ก็ต้องดำเนินคดีด้วยเช่นกัน.






อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :