ออท.มาเลย์ล่องใต้หารือหอการค้า จ.สตูล พัฒนา ชุมชนเศรษฐกิจร่วมกัน

เอกสารอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เยือนจังหวัดสตูล ประชุมหารือกับหอการค้าจังหวัดสตูล สานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย เพื่อหารือข้อมูลเกี่ยวกับด้านศักยภาพและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกิจกรรมเชิงพาณิชย์และศักยภาพชุมชนธุรกิจของมาเลเซียและไทย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว

       เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. หอการค้าจังหวัดสตูลโดยนายสมชาย ตันย์ศรีสกุล กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกฤษฎา อึ้งสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล พร้อมด้วยกรรมการหอการค้าจังหวัดสตูล ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูลต้อนรับ เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยมาเยือนจังหวัดสตูล การประชุมหารือครั้งนี้ เป็นการสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย เพื่อหารือข้อมูลเกี่ยวกับด้านศักยภาพและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกิจกรรมเชิงพาณิชย์และศักยภาพชุมชนธุรกิจของมาเลเซียและประเทศไทย ณ สำนักงานหอการค้าจังหวัดสตูล

       นายกฤษฎา อึ้งสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวว่า จังหวัดสตูลมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ทั้งบนบกและทางทะเล มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางมาจำนวนมาก โดยมีแหล่งที่เป็นที่นิยม คือ ล่องแก่งวังสายทองหาดปากบารา และตันหยงโป ที่มีร้านอาหารที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นอย่างมาก  สตูลยังมี เกาะหลีเป๊ะ ที่เดินทางได้จากเกาะลังกาวี และ ท่าเรือปากบารา ที่เป็น World destination ของคนทั่วโลกมาเยือน ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี สตูลเรามีประชากร ที่เป็นชาวมุสลิม เชื้อสายมาลายู กว่า 80% ในพื้นที่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร สวนยาง ประมง และ hospitality  เป็นเมืองที่มีความมั่นคงทางอาหารสูง  จากสถานการณ์โควิด 2 ปีที่ผ่านมาสตูลไม่มีปัญหาขาดแคลนอาหาร และมีตวามมั่นคงปลอดภัยทางทรัพย์สิน อาชญากรรม การลักขโมย มีน้อยมาก และยังมีความสงบ ไม่มีเหตุก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดน จากกลุ่มหัวรุนแรง  

       “สตูลจึงเหมาะที่จะเป็น จังหวัดที่นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาร่วมลงทุน ในกิจการที่มีบริบทเป็นธุรกิจในรูปแบบHalal industry ไม่ว่าจะเป็นการผลิต หรือ บริการ ด้านอาหาร หรือโรงแรม เรามีแรงงานที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ส่วนใหญ่ให้บริการที่ภูเก็ต และหลีเป๊ะ  ภาคใต้เรามีวัตถุดิบทางด้านการเกษตร ที่สามารถรองรับอุตสหกรรมต่างๆเหล่านี้ได้เพียงพอ สตูลจึงเหมาะสมเป็นแหล่งลงทุน สำหรับนักลงทุนมาเลเซีย  ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมฮาลาล เรายินดีที่จะดูแลนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และนักลงทุนชาวมาเลเซีย เสมือนญาติพี่น้อง ที่จะมาร่วมมือการพัฒนาภูมิภาคนี้ไปด้วยกัน” นายกฤษฎากล่าว.