อัยการยื่นฟ้องแล้วคดี”แชร์บ้านเบสท์” ผู้เสียหาย 294 ราย เงิน 71.8 ล้าน

สงขลา-โฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เผยความคืบหน้าคดีแชร์บ้านเบสท์(แชร์ลูกโซ่) อัยการส่งฟ้องแล้ว ราม พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีผู้เสียหาย 294 คน และอียการยื่นขอให้ศาลรืนเงินผู้เสียรวมเป็นเงิน 71,851,000 บาท ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย 2 คน วันที่ 2 ส.ค.นี้

ความคืบหน้าคดีแชร์บ้านเบสท์(แชร์ลูกโซ่) ที่ จ.สงขลา นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 และโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยว่าคดีนี้มีประชาชนสอบถามความคืบหน้าทางคดี และทำอย่างไรให้ได้เงินคืนนั้น อันดับแรกคิดว่าตัวอย่างถูกหลอกถูกโกงมีกันมาแล้วมากมาย ทำไมจึงเกิดขึ้นได้อีก เพราะอะไรถึงหลอกคนจำนวนมากกันได้ หลายคนคิดว่าเราไม่น่าจะถูกหลอกเราไม่น่าจะตกเป็นเหยื่อได้

จากการสอบถาม นางสาวอัญชนา ศรีเปารยะ อัยการจังหวัดสงขลาได้ทราบว่า คดีนี้มีผู้ต้องหา 2 คน อัยการจังหวัดสงขลาได้ยื่นฟ้องไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ในข้อหาตามพ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญามาตรา 91 341 343 โดยในคำฟ้องมีผู้เสียหายรวม 294 คน  อัยการจังหวัดสงขลาได้ขอให้ศาลคืนเงินแก่ผู้เสียหายเป็นเงินรวมจำนวน 71,851,000 บาท และอัยการได้ขอให้คืนเงินแก่ผู้เสียหายไว้แล้วในคำฟ้อง เพื่อให้ศาลได้พิจารณาคำขอคืนเงินแก่ผู้เสียหายด้วยในการพิจารณาคดีไปเสียทีเดียว นัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสองในวันที่ 2  สิงหาคม 2564

นายโกศลวัฒน์บอกอีกว่า กระบวนการต่อไปคือถ้ามีเงินค่าเสียหายอื่น นอกจากเงินต้นที่ลงทุนไปกับจำเลยแล้ว ผู้เสียหายต้องการร้องขอค่าเสียหาย จะต้องทำอย่างไร ตนจึงไปพบนายโสภณ ทิพย์บำรุง อธิบดีอัยการภาค 9 เรียนให้ทราบถึงผู้เสียหาย 294 คน ท่านอธิบดีจึงได้เชิญอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย จ.สงขลา นายปราศัย ศรีสุข มาพบและร่วมประชุมหารือกันทั้งอัยการจังหวัดและตนด้วย ซึ่งคณะอัยการทั้งสี่ที่ร่วมประชุมหารือกันว่า เราจะเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในคดีนี้โดยเฉพาะในทางแพ่ง เพื่อให้ได้ทรัพย์สินคืนไป กระบวนการขั้นตอนอัยการจังหวัดได้ดำเนินการชั้นต้นไว้แล้ว  

ต่อมาคือค่าเสียหายตามมาตรา 44 / 1 หากผู้เสียหายรายใดมีความเสียหายมากกว่าเงินต้นที่จ่ายให้กับจำเลยทั้งสองไป อัยการจะช่วยยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ชดใช้ค่าเสียหายโดยจะต้องจัดทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลเพิ่มเติมจากที่อัยการจังหวัดได้ขอไว้แล้ว ผู้เสียหายในส่วนนี้เชิญมาพบอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย อัยการจะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบให้ ขอให้นำรายละเอียดและความเสียหายมาแจ้งให้อัยการทราบต่อไป  

“สำหรับผู้เสียหายที่ต้องการเฉพาะเงินต้นคืน ท่านอัยการจังหวัดได้ยื่นเรื่องไว้แล้วในคำฟ้องขอให้ศาลสั่งไว้แล้ว ก็ไม่ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป รอผลคดีทางสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป ส่วนจำเลยที่อัยการฟ้องไป มีสิทธิ์ต่อสู้คดีได้ตามกฏหมาย และหากประสงค์จะเจรจากับฝ่ายผู้เสียหาย ทางสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชน จ. สงขลา ยินดีเป็นคนกลางรับดำเนินการให้ และจะนำแถลงให้ศาลทราบต่อไปด้วย” นายโกศลวัฒน์กล่าว.