ฮือฮา“แม่จ๋า”นำแพทย์แผนไทยโบราณ รักษา “บ่งต้อ-พอกเข่า” โดยไม่ต้องผ่าตัด

หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,

อ่าน : 1,589
พรรคเสรีรวมไทย แม่จ๋า ” เศรษฐินีใจบุญ เจ้าของห้างโชค บ่งต้อ-พอกเข่า
ฮือฮา“แม่จ๋า”นำแพทย์แผนไทยโบราณ รักษา “บ่งต้อ-พอกเข่า” โดยไม่ต้องผ่าตัด

นครศรีธรรมราช-ชาวเมืองคอนแตกตื่น “แม่จ๋า ” เศรษฐินีใจบุญ เจ้าของห้างโชคดี นำหมอเทวดาช่วยชาวบ้าน“บ่งต้อ-พอกเข่า” ด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยโบราณ เหลือเชื่อตาเป็นต้อทุกชนิดไม่ต้องผ่าตัดกลับมามองเห็นชัดแจ๋ว – ปวดเข่าเดินไม่ได้หลังพอกเข่าเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 ที่วัดทุ่งแย้ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนเดินทางมาขอรับบริการ “ บ่งต้อ -พอกเข่า” รักษาตาที่เป็นต้อ มีปัญหาสายตาทุกชนิด รวมทั้งอาการปวดเข่าด้วยแพทย์แผนไทยโบราณ มีนางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “แม่จ๋า” เศรษฐินีใจบุญเจ้าของห้างผ้าโชคดีและบริษัทในเครือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเสรีรวมไทย จ.นครศรี ธรรมราช คอยให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มารับบริการอย่างเป็นกันเอง โดยการรักษาไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ยังจัดน้ำชา กาแฟ อาหารว่างไว้บริการประชาชนที่มาขอรับบริการฟรีอีกด้วย


นางอัมพาพันธ์ นิลประภา กล่าวว่า ที่มาของโครงการนี้ เริ่มต้นด้วยตนอายุ 68 ปี แล้วมีปัญหาเรื่องสายตาและข้อเข่า ต่อมาอาจารย์อนุวัฒน์ ปานอ่อน ประธานยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย เขต 1 นครศรีธรรมราช แนะนำให้ตนเข้ารับการรักษาที่คลินิก 3033 แพทย์แผนไทยประยุกต์ ของแพทย์หญิงอิศรารัตน์ พุ่มทอง หรือ “ หมอเฟิร์น” ที่เปิดคลินิกอยู่ใน จ.สุราษฏร์ธานี จึงตัดสินใจพิสูจน์ด้วยตัวเองปรากฏว่าปัญหาเรื่องสายตาและข้อเข่าหายขาด ดวงตาสว่างไสว ไม่พร่ามั่ว ส่วนข้อเข่าก็หายขาด สามารถเดิน วิ่งออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี จึงคิดว่าจะนำโครงการนี้มาคืนความสุขให้กับประชาชนชาวนครศรีธรรมราช จึงขอให้แพทย์หญิงอิศรารัตน์ หรือ “หมอเฟิร์น”พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลเปิดคลินิกที่ จ.นครศรีธรรมราช 


การจัดโครงการนี้ตนได้เรียนปรึกษากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เพื่อทำโครงการในนามของ “ห้างผ้าโชคดีและพรรคเสรีรวมไทย” โดยตนจะเป็นผู้ออกค่าใช่จ่ายเองทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อต้องการคืนกลับผลประโยชน์ให้กับชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช “คืนสายตาที่สว่างไสว- คืนข้อเข่าให้เดินได้ตามปกติ”ทำให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง


ส่วนแพทย์ที่บริการรักษาตำรับแพทย์แผนไทยประยุกต์ ประกอบด้วย แพทย์หญิงอิศรารัตน์ พุ่มทอง หรือ “หมอเฟิร์น” เจ้าของคลินิก 3033 แพทย์แผนไทยประยุกต์ ปัจจุบันตั้งอยู่หมู่บ้านนครเลควิว จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จบการศึกษาระดับปริญญาโทจาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำหรับการรักษาปัญหาเกี่ยวกับสายตา สายตาสั้น ยาว ตราพร่ามั่ว น้ำตาไหล เป็นต้อกระจก ต้อเนื้อต้อลม ด้วยวิธีการ “บ่งต้อ และอาการปวดข้อเข่า ด้วยวิธีพอกเข่า” ด้วยยาสมุนไพรไทย โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดซึ่งตามปกติในการรักษาบ่งต้อครั้งละ 450 บาท พอกเข่าข้างละ 300 บาท/ครั้ง ประชาชนที่มารับการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือ คอร์ดละ 3 ครั้ง โดยเฉพาะตัวยาสมุนไพรที่นำมาบดเพื่อใช้รักษาข้อเข่ามีราคาแพงลิ่วถึงกก.ละ 5,000 บาทเลยทีเดียว


โครงการนี้ได้เริ่มขึ้นหลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมทีมผู้บริหารพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาเปิดโครงการ “ บ่งต้อ-พอกเขา” และเปิดตัวนางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “แม่จ๋า” ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 1 พรรคเสรีรวมไทย จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 โดยเปิดคลินิกชั่วคราวที่วัดทุ่งแย้ หมู่6 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง รับผู้ป่วยที่มีปัญหาสายตาและข้อเข่าเข้ารักษาจำนวน 30 คนๆละ 3 ครั้ง ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาบางรายตาเป็นต้อมองแทบไม่เห็น บางรายเดินไม่ได้นอนอยู่กับที่มานานนับเดือนและแพทย์แผนปัจจุบันนัดผ่าตัดเปลี่ยนสะบ้าหัวเข่า แต่หลังจากเข้ารับการรักษาในครั้งแรกครั้งเดียว อาการดีขึ้นและเมื่อครบคอร์ส 3 ครั้งอาการหายจนเกือบเป็นปกติ สายตาที่มองแทบไม่เห็น และข้อเข่าที่ปวด บวม อักเศษ เดินไม่ได้ ปรากฏว่าคนที่ผ่านการบ่งต้อสายตากลับมามองเห็น 70-80 เปอร์เซนต์ ส่วนผู้ป่วยที่เขารับการพอกเข่า ก็กลับมาเดินได้ 70-80 เปอร์เซนต์ เช่นกัน สร้างความดีใจให้กับผู้ป่วยทุกคนเป็นอย่างมาก 


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากมีประชาชนเข้ารับการรักษาและเล่าลือกันว่าอาการดีขึ้นและหายจริง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เล่าลือกันในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง และมีการร้องเรียนสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเนื่องจากเกรงว่าจะเป็น การหลอกลวงชาวบ้าน ทางคณะสื่อมวลชนกว่า10 คน จึงเดินทางไปตรวจสอบติดตาม สังเกตการณ์การรักษาอย่างใกล้ชิด พบว่าทุกคนที่เข้ารับการรักษาพยาบาลเริ่มต้นด้วยการตรวจวัดความดันโลหิต จากนั้นจะรับกล้วยน้ำหว้า 1 หวี เทียนชัยขนาดเล็ก 1 เล่ม เงิน 12 บาท เพื่อบูชาครู จากนั้นเมื่อถึงคิวรักษาผู้ป่วยจะนำสิ่งของทั้งหมดไปมอบให้แพทย์หญิงอิศรารัตน์ หรือ“หมอเฟิร์น” โดย“หมอเฟิร์น” จะกล่าวตั้งนะโม 3 จบและกล่าวคาถาบูชาระลึกพ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์หรือหมอประจำตัวองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปฐมบรมครูด้านการแพทย์แผนโบราณ ก่อนทำการรักษา


การรักษา“บ่งต้อ-พอกเข่า” เริ่มโดยการบ่งต้อ “หมอเฟิร์น” จะทำการรักษาด้วยตัวเองเพราะในจังหวัดนครศรีธรรมราชมี“หมอเฟิร์น”เพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีความเชี่ยวชาญสามารถบ่งต้อได้ ส่วนการพอกเข่าจะมีแพทย์หญิงสุภารัตน์ จงใจ หรือ “หมอพรีม”พร้อมทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ช่วยกันดำเนินการพอกเข่าให้ผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพรไทย เมื่อพอกเข่าและพันทับด้วยพลาสติกแรปที่ใช้ห่ออาหาร และนำกะละมังใส่น้ำยาสมุนไพรมาให้ผู้ป่วยแช่เท้าไปแพร้อม ๆ กันด้วยใช้เวลาในการแชร์เท้าประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ตัวยาที่พอกเข่าจะไม่แกะออกจนกว่าตัวยาจะแห้ง อาจจะใช้เวลามากกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งผู้ป่วยจะเดินทางกลับไปบ้านและแกะออกเองได้ในภายหลัง 


สำหรับการบ่งต้อนั้นเมื่อบูชาครูเรียบร้อยแล้ว“หมอเฟิร์น”จะใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดแผ่นหลังของผู้ป่วยก่อนจะใช้สายตาสำรวจหาจุดที่เรียกว่า “รากต้อ” ที่จะทำการบ่งต้อ โดยต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการพิจารณาหาจุด “รากต้อ”แต่ละจุด เนื่องจากแผ่นหลังของผู้ป่วยอาจจะมีจุดต่าง ๆ มากมายหลายประเภท เช่น สิว หูดไฝ เป็นต้น บางครั้งต้องใช้ไฟฉายส่งหาจุดรากต้อ เมื่อได้จุดแล้วจะนำปากกามาวงเพื่อให้จำได้ง่าย จากนั้นจะใช้หนามหวายขลิง มาจิ้มแทงเขี่ยจุดรากต้อคล้ายเขี่ยหนามตำเท้า หรือ“บ่ง” จนพบเส้นใยสีขาวเป็นกระจุกคล้ายรากผักชี โดยรากต้อที่พบจะเหนียวมากน้อยขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละคนและรากดังกล่าวเป็นรากของต้อชนิดไหน 


“หมอเฟิร์น”ใช้หนามหวายขลิงบ่งเขี่ยดึงจนรากต้อขาดก่อนจะใช้เหล็กหนีบดึงรากต้อออกมาวางภายนอก ทำแบบเดียวกันครั้งละ 3-4 จุด บางรายจะมีเลือดออกเล็กน้อยเหมือนการบีบหรือแกะหัวสิว ทุกขั้นตอนจะกระทำอย่างละเอียด รอบคอบ ระมัดระวังเป็นพิเศษและหลังการบ่งต้อให้ผู้ป่วยแต่ละรายแต่ละครั้ง“หมอเฟิร์น”จะรวบรวมหนามหวายขลิง สำลี ที่ใช้เฉพาะของผู้ป่วยแต่ละรายมาวางบนจุดหรือแผลแต่ละแผล ตั้งนะโม 3 จบและกล่าวคาถาบูชาระลึกถึงพ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ จึงเสร็จสิ้นการ “ บ่งต้อ ” รักษาดวงตาแต่ละครั้ง


การรักษา“บ่งต้อ-พอกเข่า”นี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครเข้ารับการรักษาใน โครงการได้ครั้งต่อไป เริ่มวันที่ 18 ม.ค.65 ที่ห้างผ้าโชคดี เลขที่ 1410/6 ถนนชมพูพล ต.ท่าวัง อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราช สอบถามและสมัครลงทะเบียนรักษาได้ที่เพจ “ Oampaphan Ninprapha (อัมพาพันธ์ นิลประภา) “ หรือ อาจารย์อนุวัฒน์ ปานอ่อน ประธานยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย เขต 1 นครศรีธรรมราช โทร.0966544777 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการช่วยเหลือประชาชนของนางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “ แม่จ๋า ” ซึ่งเป็นเศรษฐินีใจบุญเจ้าของห้างผ้าโชคดีและบริษัทในเครือ ได้ทำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ผลไม้ แจกให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ยากจน ผู้ด้อยโอกาส วันละ 3,000 ชุด ที่บริเวณหน้าห้างผ้าโชคดี เป็นระยะเวลายาวต่อเนื่องเกือบ 10 ปี กระทั้งเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 จึงจำเป็นต้องหยุดทำข้าวกล่องแจกเป็นการช่วยคราว เพื่อปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ยังคงเดินสายแจกหน้ากาก เจลฆ่าเชื้อ ให้กับประชาชนชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมอบชุด PPE สนับสนุนให้กับเจ้าหนาที่บุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง.