เก็บรังนกฯพัทลุงได้น้อยเกินคาด-แฉตัวการใหญ่ขโมยและเมีย ขรก.ใหญ่ยังลอยนวล

พัทลุง-เก็บรังนกอีแอ่นรอบสุดท้ายของปี  2565  ได้น้อยเกินคาด ผลกระทบจากถูกขโมยเกลี้ยงถ้ำและทำลายวงจรนก อดีตคณะกรรมการรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง เผยต้องเร่งฟื้นฟูสภาพธรรมชาติและระบบนิเวศน์ เพื่อให้นกกลับมาขยายพันธุ์ ส่วนขบวนการลักรังนกฯจะหมดไปหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป เพราะตัวการใหญ่และภรรยาข้าราชการใหญ่ยังลอยนวลจับไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากกรณีสัญญาการสัมปทานรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง บริเวณหมู่เกาะสี่ เกาะห้าต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ได้หมดลงในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 และทางบริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ได้ชนะการประมูลและเข้ารับการมอบเกาะรังนก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 และพบว่ารังนกถูกขโมยและทำลายอย่างย่อยยับ จนนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 47 ราย ขณะนี้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างดำเนินคดีนั้นทำให่กรเก็บรังนกได้น้อย

ล่าสุดเมื่อวันที่  16  สิงหาคม  2565  ที่ผ่านมา  หลังจากคนรับจ้างแทงรังนกจาก เกาะลิบง จ.ตรัง  และจาก  อ.กระแสสินธุ์  จ.สงขลา กว่า 60  คน ร่วมกับคณะทำงานผู้มีประสบการณ์ ที่ทางกรรมการรังนกอีแอ่นพัทลุงแต่งตั้งขึ้นเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ ในการเข้าเก็บรังนกตามถ้ำต่างๆหลังพ่อแม่นกอีแอ่นพาลูกโบยบินออกจากรัง เพื่อกลับไปอาศัยยังถิ่นฐานเดิมยังไซบีเรีย ก่อนจะบินหนีอากาศหนาวกลับมาอีกรอบในช่วงปีถัดไป    

จากการเก็บรังนกในรอบนี้ คนรับจ้างแทงรังนกใช้เวลา 6 วันเก็บ รังนกทั้ง 7  เกาะ  คนงานได้เก็บรังนกขาวได้เพียง 233 .55 กก.เท่านั้น  รวมการเก็บรังนกปีแรกของผู้ได้รับสัมปทาน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 รังนกขาว 281.76 กก ครั้งที่ 2 รังนกขาว 390.14 กก. และรอบสุดท้ายครั้งที่ 3  รังนกขาว 233.55 กก.  อย่างไรก็ตามในการจัดเก็บรังนกอีแอ่นในหมู่เกาะสี่ เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ก่อนหน้านี้ที่มีการสัมปทาน ในแต่ละรอบ รังนกขาว จะเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 1 ตัน ในแต่ละรอบ  แต่หลังจากช่วงว่างเว้นสัมปทาน เมื่อปีที่แล้ว 90 วัน  ที่มีการลักรังนกและเผาทำลายทรัพยากรนกจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้  47  รายนั้น  การเข้ามาเก็บรังนกฯได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น    ซึ่งหลายๆฝ่ายเชื่อว่าการเก็บรังนกอีแอ่นได้น้อยนั้นเกิดจากผลพวงมาจากการเข้าขโมยรังนกแบบล้างผลาญช่วงปี 2564 และต้องรอเวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นตัว

ด้านอดีตคณะกรรมการรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง กล่าวว่า การเก็บรังนกอีแอ่นได้น้อย ชี้ให้เห็นถึงการทำลายวงจรชีวิตรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ของขบวนการขโมยรังนกอีแอ่น และตัวการใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังที่ย้งไม่สามารถสืบสาวจับกุมได้ ทำให้จังหวัดพัทลุงและประเทศชาติเสียรายได้ไปอย่างมหาศาล จำเป็นอย่างนิ่งที่คณะกรรมการรังนกอีแอ่นจ.พัทลุง ต้องเร่งฟื้นฟูสภาพระบบนิเวศน์บนเหาะและรอบเกาะ เพื่อให้นกอีแอ่นกลับมาขยายพันธุ์เพิ่มโดยเร็ว ส่วนขบวนการรังนกจะหทดไปจริงหรือไม่นั้นต้องรอดูกันต่อไป เพราะชาวพัทลุงรู้กันอยูว่า ตัวการใหญ่ยังสืบสาวหาหลักฐานจับกุมไม่ได่ รวมถึงภรรยาข้าราชการใหญ่ด้วย ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.