“เครือข่ายจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น”ยื่นทวงถาม นายกฯ เดินหน้านิคมอุตสาหกรรม
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 ธ.ค. 2564, 21:00 น. อ่าน : 749สงขลา-ตัวแทนกลุ่ม”เครือข่ายจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น” บุกศาลากลางจังหวัดสงขลา ทวงถามนายกรัฐมนตรี ย้ำจุดยืน หนุนเกิดนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เรียกร้องกลุ่ม”จะนะรักษ์ถิ่น”หาทางออกร่วมกัน โดยยึดหลักความเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เวลา 16.23 น. ได้มีตัวแทนจากเครือข่ายจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่นเดินทางมาที่หน้าสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผ่านทางนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยมี นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือแถลงการณ์ข้อเรียกร้องจากกลุ่มเครือข่ายจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น
ทั้งนี้กลุ่มเครือข่ายจะนะอาสาพัฒนาถิ่น ได้เดินทางมาทวงถามถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสัญญาที่ทำไว้กับนายกรัฐมนตรีว่า จะขับเคลื่อนเมืองต้นแบบก้าวหน้าแห่งอนาคต และจะผลักดันการจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับลูกหลานในอำเภอจะนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวจะนะทุกคนคาดหวังไว้ว่าจะเป็นเมืองที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา วันนี้จึงมาทวงสัญญา ว่าเราจะต้องเดินหน้าโครงการ เพื่อผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้น แต่หากว่าวันนี้มาทวงสัญญาและยังไม่บรรลุเป้าหมายทุกคนก็พร้อมที่จะเดินหน้าไปทำเนียบรัฐบาลต่อไป เพื่อบอกถึงวัตถุประสงค์ของชาวอำเภอจะนะว่า ได้มีการตกลงฉันทามติ ซึ่งวันนี้ได้ผ่านมาหลายๆ เวทีมาแล้วกว่า 30 เวทีของอำเภอจะนะ และผ่านมติของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนใน 3 ตำบลของอำเภอจะนะกว่า 3000 คน ต้องการเมืองต้นแบบแห่งอนาคต เพื่อลูกหลานมีงานทำ จึงได้มาทวงถามสัญญาว่า สิ่งที่เราได้ทำกันไปจะได้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มที่คัดค้านหันหน้ามาเจรจาตกลงพูดคุยกันว่าจะเดินหน้ากันอย่างไร จึงได้ออกแถลงการณ์ในครั้งนี้ โดยกลุ่มเครือข่ายจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่นระบุในคำแถลงการณ์ถึงข้อเรียกร้องว่า ในนามของแกนนำพื้นที่ทั้ง 3 ตำบลในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เห็นถึงผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากการกระทำของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น นั้นคือ การพยายามเรียกร้องให้ยุติโครงการพัฒนาขนาดใหญ่นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะทำอย่างยิ่ง เราจึงขอเรียกร้อง ด้วยข้อเสนอ 5 ประการ ดังนี้
1.เรียกร้องให้กลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น กลับมาพูดคุยกันในพื้นที่ โดยให้ตัวแทนรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย คือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางในการพูดคุย สร้างความเข้าใจและประสานความเห็นต่างของคนในพื้นที่ให้เป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ เราเชื่อมั่นว่าจะหาทางออกร่วมกันได้
2.ขอให้การพัฒนาดำเนินการไปตามระบบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อะไรเป็นหน้าที่ของเอกชน เอกชนก็ดำเนินการไป อะไร เป็นหน้าที่ของรัฐ ก็ทำไป และอะไรเป็นหน้าที่ของประชาชน ก็เดินหน้าต่อไป โดยมีพื้นฐานร่วมกันคือ ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ
3.เรียกร้องให้ทุกฝ่าย นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง อย่าบิดเบือนข่าวสารที่ทำให้สังคมใหญ่เข้าใจไปในทางที่ผิดและทำให้กลุ่มพวกเราเป็นจำเลย พวกเรา ไม่ได้รับการจ้างและไม่เคยมีใครซื้อใจเราได้ แต่เพราะโอกาสการพัฒนาที่ดีที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่และลูกหลานของเรา โดยเฉพาะภาพการพัฒนาที่เราได้เคยไปพบจริงเช่น ที่ระยอง ชลบุรีและประเทศมาเลเซีย สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม ท่าเรือขนาดใหญ่ ประมงพื้นบ้านและต่างอยู่ร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างมาเพื่อหลอกหลอนว่า 20 ปี ซึ่งเป็นความจริงที่พวกเรารับทราบทำให้ไม่ปฏิเสธการพัฒนาที่จะเกิดขึ้น
4.ขอเรียนเชิญทุกกลุ่ม สื่อมวลชน นักการเมือง รัฐบาล ลงมารับฟังความคิดเห็นของพวกเราบ้างลงมาพูดคุยกับพวเราโดยตรง หรือ เชิญพวกเราไปร่วมรายการบ้าง ให้โอกาสพวกเราได้พูดและแสดงออกพวกเราเชื่อว่าพวกเราเป็นกลุ่มพลังสำคัญที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่เพราะเราไม่มีช่องทางการเข้าถึงสื่อมวลชน ทำให้สังคมเห็นว่าพวกเราเป็นเสียงเล็กทั้งที่มีมวลชนสนับสนุนมากกว่า หลายเท่าตัวนัก
5.ขอให้หยุดใช้เด็ก สตรีและคนชรา เป็นเครื่องมือการทำงานของพวกท่าน คนเหล่านี้ จะมีชีวิตเป็นอย่างไรภายหลังที่ท่านหยุดใช้พวกเขา เขาจะใช้ชีวิตร่วมกับคนในชุมชนอื่น ได้หรือไม่ พวกเราต้องการความสมัครสามัคคีของพี่น้องทุกเชื้อชาติ ศาสนา เป็นพี่น้องร่วมกัน และเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาในพื้นที่ที่พวกเรามีส่วนร่วมกันทำมาด้วยความหวังว่าทุกฝ่ายจะรับรู้และเข้าใจ และไม่ตัดสินใจจากข้อมูลด้านใดด้านหนึ่งที่นำเสนอเพียงฝ่ายเดียว เพื่อให้โอกาสเกิดขึ้นกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม.