เจ้าของที่ดิน 30 ราย ชุมนุมร้องเรียน ถูกผู้มีอิทธิพลฮุบที่ดิน

หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,

อ่าน : 474
ผู้มีอิทธิพลฮุบที่ดิน
เจ้าของที่ดิน 30 ราย ชุมนุมร้องเรียน ถูกผู้มีอิทธิพลฮุบที่ดิน

               สงขลา - ผู้เสียหายกว่า 30 คน ร้องสื่อถูกนายทุนล้อมรั้วลวดหนามที่ น.ส. 3 ก. กว่า 200 ไร่ เจ้าหน้าที่ที่ดินยังไม่กล้าเข้าไปรังวัด เพราะว่ามีผู้มีอิทธิพล อ้างถ้ามีเสียงปืนใครจะรับผิดชอบ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยด่วน

     เมื่่อวันที่  2 ส.ค. 2567 เวลา  09.00 น.  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีชาวบ้านกว่า 30 คน มาจากหลายจังหวัดได้มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าที่ดินของตนเองถูกนายทุนมาล้อมรั้วลวดหนาม และที่ประตูทางเข้าที่ดินติดป้ายไวนิลเขียนข้อความว่าพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ส่วนที่ดินที่ถูกล้อมรั้วนั้นกว้างกว่า 30ไร่ ผู้เสียหายทั้งหมด 30 คนได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ทุ่งตำเสา ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อปี 2566 แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเขียนป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าวได้ถือเอกสาร  น.ส.3 ก. และใบซื้อขาย ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมข้อความว่า ผู้บุกรุกออกไปที่ตรงนี้มีเอกสารสิทธิ์ทุกแปลง    

     กลุ่มผู้ที่มาชุมนุมเปิดเผยว่าพวกที่มาชุมชนมีกว่า 30 คน เตื่องจากซื้อที่ดินไว้นานแล้ว เป็นที่ดิน น.ส. 3 ก ตั้งแต่ปี 2527 และชาวบ้านบางคนจะไปโอนที่ดินเพื่อออกโฉนด เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าอย่าเข้าไปเพราะว่ามีผู้มีอิทธิพลบุกรุก แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลว่าอะไร หลังจากนั้นพยายามเข้าไปหาเจ้าหน้าที่อีก และเจ้าหน้าที่กลับบอกว่าถ้ามีเสียงปืนอะไรจะไม่รับผิดชอบ

     นายวันยิต ซิงห์ฮันสราช เจ้าของที่ดินที่ถูกบุกรุก แปลงที่ 35 และ 36 ผู้เสียหายท่านนี้ น.ส.3 ก. ปี 2527 ถึงปีนี้ก็ครบ 40 ปีแล้ว และระหว่างนั้นไปที่เทศบาลด้วยไม่ยอมรับค่าชำระภาษี ไปที่ สนง.ที่ดินเจ้าหน้าที่ไม่ให้พบกับหัวหน้าหลังจากนั้นไปเรื่อยๆ 5-6 เดือน เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้มีอิทธิพลบุกรุกไม่สามารถเข้าไปได้ ตนถามว่าสมัย คสช.ยังมีผู้มีอิทธิพลอีกหรือ เขาก็บอกว่าไม่สามารถเข้าไปได้ หรือไม่ก็บอกเหตุผลว่าเป็นที่พื้นที่มันรกร้างหรืออย่างไร

     พร้อมกันนี้ นายวันยิต เผยอีกว่า บุตรชายตนเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าหากมีเสียงปืนขึ้นมา หรือมีอะไรสูญเสียจนเสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่เองไม่ได้ทำอะไรเลย ก่อนหน้านี้ไปแจ้งความหลายครั้งแล้วที่ สภ.ทุ่งตำเสา ตำรวจให้ความสะดวกหลายอย่าง สั่งทำตามขั้นตอน มีการส่งเอกสารไปยัง สนง.ที่ดิน แจ้งเรื่องราวก็ไม่มีอะไรคืบหน้า มาตรวจดูทุกครั้งการมาชี้แนวตลอดเขตว่าที่ดินอยู่ตรงนี้หลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย อยากจะให้ภาครัฐให้ความสนับสนุนให้ได้ที่ดินคืนมา เพราะตอนนี้ก็มีอายุมากขึ้นเพื่อจะได้นำที่ดินไปทำประโยชน์เลี้ยงชีพได้ในโอกาสต่อไป

     “ก่อนหน้านี้เราได้รวมกลุ่มคนที่ซื้อที่ดินที่บุกรุก และนัดหมายกลุ่มคนพวกนี้ก็ไม่ได้มากันเลย และหลีกเลี่ยงสองถึงสามครั้งแล้ว เมื่อนัดล่วงหน้าพร้อม เจ้าหน้าที่ที่ดินมาด้วย แม้เจ้าหน้าที่ได้ทำการชี้แนวเขตที่ดิน บุคคลเหล่านั้นก็เลี่ยงเข้ามาอยู่ใต้ต้นไม้ห่างออกไปถึง100-150 เมตร” นายวันยิต กล่าว

     นายธิติวัฒน์ เจ้าของที่ดินที่ถูกบุกรุกอีกราย ได้เล่าว่า กรมที่ดินบอกว่าเป็นป่าลึกเข้าไปไม่ได้และให้พวกเรารวมกลุ่มกัน แล้วเมื่อรวมได้แล้วมาเปิดทางถางป่า ตนมาจาก กทม.มา 2 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อจะเข้ามาเซ็นเกี่ยวกับเจ้าของที่ดินข้างเคียงก็ไม่จบ แล้วให้ผมรวมตัวเจ้าของที่ดิน จากนั้นประมาณปี 2565 ได้รวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มไลน์ขึ้นแล้วประสานทุกท่านเจ้าของที่ดินแล้วนัดพบกัน ตอนแรกที่ดินเป็นป่ารกทึบเสียเงินมาไถเปิดทาง ก่อนหน้านี้มีต้นไม้ป่าทึบบัง แต่เมื่อถางป่าแล้วจึงพบว่ามีผู้บุกรุกที่ดิน พบป้ายปักไว้เขียนข้อความว่า “ห้ามเข้าเขตส่วนบุคคล” แต่ขณะนี้ได้ถอดออก เอาไปไว้ส่วนด้านในที่ดินแล้ว

     “ผมเองหนึ่งในผู้ถูกบุกรุกที่ดินมีความประสงค์ต้องการให้ เจ้าหน้าที่ของรัฐให้ความยุติธรรม ให้ที่ดินที่ถูกบุกรุกทุกแปลงได้กลับคืนสู่เจ้าของที่ที่แท้จริง เพราะซื้อที่ดินมาประมาณอายุ 30 ปี ตอนนี้อายุุกว่า 70 ปี กันแล้ว การไปมาก็ไม่สะดวกและที่เสียชีวิตไปก็มี แถมยังไม่ได้ที่ดินคืนมาเลย ส่วนแปลงที่ไม่มีปัญหามีการออกโฉนดให้เรียบร้อยแล้ว มีที่ติดอยู่ 30กว่าแปลงที่ถูกบุกรุกไม่ยอมคืน” นายธิติวัฒน์ กล่าว

     ด้าน นางธารินี เจ้าของที่ดินผู้ถูกบุกรุกผู้เสียหายอีกรายกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ทราบแน่จริงเลยว่าเป็นใครตรงไหนมีตัวตนประมาณปี 2566 และทราบว่าชื่ออะไรและที่ดินก่อนหน้านี้เข้าไปไม่ได้ จะไปโอนที่ดินหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่ สนง.ที่ดินบอกว่าที่ดินเข้าไปไม่ได้ถ้าเข้าไปจะถูกยิงอย่างโน้นนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตั้งแต่ปี 2560 เข้ามารังวัดที่ดินไม่ได้ เพราะเป็นที่ดินมี น.ส. 3 ก. จะต้องเข้าไปวัดก่อนถึงจะโอนเป็นที่ดินมีเลขหนังสือโฉนดออกเป็นโฉนดได้ ผู้บุกรุกไม่ได้ข่มขู่แต่รู้ว่าแค่ว่าที่เข้ามาไม่ได้ไม่ใช่เราทิ้งร้างว่างเปล่าไม่สนใจเราเองก็ไม่กล้าเข้ามา

     ถ้าพูดกันตามความจริง เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าเข้ามา หากชาวบ้านธรรมดาแบบเราเข้ามาก็คิดว่าคงไม่ปลอดภัยอาจถูกทำร้ายได้ ที่ทราบว่ามีผู้บุกรุกเป็นตัวบุคคลเมื่อปี 2566 ก่อนหน้านี้ฝากคนข้างเคียงช่วยดูให้แต่เพื่อนที่ดินข้างเคียงบอกว่าเข้าไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ที่ดินก็เข้าไม่ได้ เอาจริงๆแล้วบุคคลที่บุกรุกเขาไม่มีเอกสารสิทธิอะไรมีแต่ปากเปล่าบอกว่านี่เป็นที่ดินของตนเข้ามาจับจองทำประโยชน์ แต่ตอนนี้มีการเปิดทางทำถนนอะไรเรียบร้อยแล้วแต่เราเองก็ไม่สามารถที่จะกล้าเข้ามา คือเข้าใจไหมคะเราเองคือสุจริตชนที่จะกล้าเข้ามาในที่ดินตัวเองกลัวถูกยิง ทั้งๆ ที่เป็นที่ดินเรานี้แหละค่ะ ซึ่งจริงแล้วหากจะให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเราได้คือความยุติธรรมคือ ไม่ว่าทางราชการ ทางที่ดิน ทางศาล ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น ตัวที่ดินของเราเองโดนทำให้เสียรูปทรัพย์ เขาขุดเป็นบ่อซึ่งเราเองไม่ได้มาใช้ประโยชน์ในที่ของเรา ตามประโยชน์ที่ควรจะเป็น อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย อย่าให้มีอิทธพลอยู่อย่างนี้” นางธารินี กล่าว.







อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :