เตรียมออกหมายจับอีก 1 คดีทุจริตเงินสหกรณ์ ตร. พัทลุง มีเส้นทางเงินก้อนโต

พัทลุง-เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหารายสำคัญอีก 1  คน  หลังจากที่ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินที่คาดว่าน่าจะได้จากการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เป็นก้อนโต 

ชาวพัทลุงและข้าราชการตำรวจยังเกาะติดคดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินกว่า1,500 ล้านบาท จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 24 ราย  ด้านสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด จะจัดให้มีการประชุมวิสามัญ ประจำปี 2565 เพื่อรับรองงบแสดงฐานะทางการเงิน การจัดทำแผนฟื้นฟู และการกำหนดวงเงินกู้ยืมเพื่อให้เจ้าหนี้จ่ายเงินมาสร้างสภาพคล่องแก่สหกรณ์ฯ ในต้นเดือน สิงหาคม 2565  ส่วนพนักงานสอบสวนได้อายัดทรัพย์สินครอบครัวผู้ต้องหา และเครือญาติได้มากกว่า 400 ล้านบาท ด้านสมาชิกภาคสมทบสหกรณ์ฯได้มอบหมายให้สามีที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังของภาคใต้   เข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทลุงเพื่อดำเนินคดีทางแพ่งกับสหกรณ์ฯและกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง  24  ราย  ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้  ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจรายงานความคืบหน้าคดีนี้ว่า  กลุ่มพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ตามคำสั่งของ ผบ.ตร. ได้มีกำหนดเดินทางมายังจังหวัดพัทลุงเพื่อขยายผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นและสมบูรณ์  และนำไปสู่การยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหารายสำคัญต่อไป ในเบื้องต้นคาดว่า  ปปง.จะมีการเข้ายึดทรัพย์ดังกล่าวของผู้ต้องหาในจังหวัดต่างๆในเร็วๆนี้  ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้เตรียมยื่นขอหมายจับผู้ต้องหารายสำคัญต่อศาลจังหวัดพัทลุง อีก 1 คน หลังจากขยายผลการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินพบว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าว  ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ต้องหารายสำคัญคนหนึ่งที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว  และจะถูกยึดทรัพย์ในเร็วๆนี้  มีเส้นทางการเงินที่คาดว่าน่าจะได้มาจากการทุจริตเงินสหกรณ์ฯเป็นเงินก้อนโต 

ทางด้านพนักงานสอบสวนในคดีการทุจริตสหกรณ์ฯรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่สมาชิกภาคสมทบของสหกรณ์ฯได้มอบหมายให้สามีที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่  ยื่นเรื่องฟ้องร้องทางแพ่งต่อสหกรณ์ฯและกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง  24  ราย  เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนต่อไป  เรื่องดังกล่าวนี้ทางฝ่ายกฎหมายของสหกรณ์ฯน่าจะยื่นฟ้องทางแพ่ง  เพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้แล้ว  ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาแต่ละคนจะถูกชดใช้ความเสียหายจากการเกิดทุจริตในสหกรณ์ฯมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป  

ทางด้านผู้ต้องหารายหนึ่งที่ถูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยืนฟ้องทางแพ่ง เปิดเผยว่า  ตนได้รับหนังสือจากศาลจังหวัดพัทลุง  เพื่อให้ทำคำให้การแก้คดียื่นต่อศาลภายใน 15 วันแล้ว และจะมีการนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 5 กันยายน2565 นี้  ซึ่งตนก็ขอน้อมรับในขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรมแต่ในขณะนี้ตนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยที่จะสามารถนำไปชดใช้ความเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ  สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของตนได้ตลอดเวลา  

“ประการสำคัญผมก็ยังเป็นหนี้สหกรณ์ฯอีกก้อนโต ในแต่ละเดือนมีเงินเหลือจากการใช้หนี้สหกรณ์ฯประมาณ  4,000  บาทเท่านั้น  ก็ไม่รู้ว่าจะนำเงินที่ไหนไปชดใช้ความเสียหายให้กับสหกรณ์ฯได้  และไม่คาดคิดมาก่อนว่าการทำหน้าที่ในสหกรณ์ฯนั้น ได้ส่งผลต่อชะตากรรมต่อผมและครอบครัวมากถึงขนาดนี้” ผู้ต้องหากล่าว ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.