ยะลา-ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดนลาดตระเวนเข้มป้องกันการคนไทยลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ ด้าน อ.เบตง เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาด หลังมาเลเซียประกาศล๊อกดาวน์ประเทศ 1 มิ.ย.
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อหลายพันคนต่อวัน จนทางการมาเลเซียต้องประกาศล๊อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มิ.ย.ถึงวันที่ 14 มิ.ย. 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ
ทางด้านอำเภอเบตง จ.ยะลา ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซีย หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่ 4 ตำรวจ สภ.เบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดน อส.อำเภอเบตง จึงต้องเพิ่มความเข้ม ออกลาดตระเวนตามแนวกำแพงตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยได้จัดชุดลาดตระเวนทั้งที่เดินเท้า ตั้งด่านตรวจตามถนนเลียบชายแดน ลาดตระเวนด้วย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตลอด 24 ชม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดกรองโควิด-19 และกักตัว 14 วัน ของกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าวในมาเลเซีย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นำพาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา
ทั้งนี้ในพื้นที่ป่าเขาและตามช่องทางธรรมชาติที่ไม่มีกำแพง รั้วลวดหนามกั้น ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4406 ทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่ 4 ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจ โดยจัดชุดจรยุทธ์ เดินเท้า เข้าไปพักค้างแรมในป่า โดยเฉพาะบริเวณหลักเขตแดนที่ 54/199 ซึ่งอยู่ห่างจากถนนเลียบชายแดนไทยลึกเข้าไปในป่าประมาณ 2-3 กิโลเมตร ไม่มีรั้วลวดหนาม กำแพงคอนกรีตกั้น ชาวบ้านที่หาของป่าในพื้นที่อำเภอเบตง มักลักลอบใช้เส้นทางนี้เข้าไปหาของป่าในประเทศมาเลเซีย แต่หลักจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทาง ตชด.ได้เดินลาดตระเวนตลอด และจัดกำลังไปคอยดักซุ่ม พักแรมค้างคืน เพื่อป้องกันการใช้เส้นทางนี้ลักลอบเข้าประเทศ.